ขอส่วนลดจากซิตี้โดนลำเลิกบุญคุญเพียบ

อ้าว !!!...เพิ่งรู้นะเนี่ย
คุณชอบตั้งกระทู้ใหม่ไปเรื่อยๆอย่างนี้เองหรอกเหรอ?

เมื่อกี๊ผมก็เพิ่งลบกระทู้ที่ตั้งซ้ำซ้อนของคุณออกไปหมาดๆ
ที่คุณไปตั้งเอาไว้อีกกระทู้นึงว่า "ส่วนลดใบแรกอยากให้ดูเอกสารหน่อ​ยค่ะว่าใช้ได้หรือเปล่า"
แล้วคุณแก้วจ๋าก็เพิ่งเข้ามาตอบไปหยกๆ แต่ผมเห็นว่ากระทู้มันซ้ำซ้อน ก็เลยลบออกไป เพราะเห็นว่ามัน"รกบอร์ด"(เหมือนกับกระทู้ขยะนั่นแหละ)

คราวหน้าผมว่าจะไม่เข้ามาลบ"กระทู้ขยะ"ให้คุณอีกแล้วนะ
แต่ถ้าลบสถานะความเป็นสมาชิกของคุณมันจะง่ายกว่ามั๊ง

aoddy1977 เขียน:   เมื่อเดือนพ.ค. ผมได้โทรไปที่1588 ว่าจะชำระหนี้.   เพราะอยากจะเคลียหนี้ไม่อยากหนี้
หนี้นี้เป็นหนี้บัตรกดเงินสดนะครับ.  และโทรไปบอกเจ้าหน้าที่ว่าจะปิดหนี้ทั้งหมดโดยขอลดหย่อน
เพราะได้เก็บเงินมาก้อนหนึ่งคิดว่าจะเคลียให้หมดนะครับ. ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าหนี้นี้ทางแบงค์ได้ส่งเรื่องให้อีกส่วนดูแลแล้วจะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ.   และไม่นานผมก็ได้มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทกฎหมายโทรมาผมก็ได้ถามเค้าว่าผมมีหนี้ทั้งหมดกะแบงค์เท่าไหร่เจ้าหน้าทีก็บอกว่ามีประมาณหกหมื่นกว่าบาท. ผมก็ได้ต่อรองว่าขอลดหย่อนได้ไหมเพราะเก็บเงินมาตั้งนานเพื่อเคลียร์หนี้ได้สามหมื่นกว่า.  เจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าจะส่งเรื่องไปที่แบงค์ว่าลดได้เท่าไหร่
แล้วอีกวันเจ้าหน้าที่ก็โทรมาแจ้งว่าทางแบงค์ลดให้เหลือสามหมื่นกว่า ผมก็ตกลง. เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้รอทางแบงค์ออกเอกสารลดหนี้มาแล้วจะส่งมาให้ผมไปจ่าย
พอผมไปจ่าย. ผมก็คิดว่าหมดกันแล้ว. พอวันนี้ผมลองไปเช็คเครดิตบูโรตรงบีทีเอสศาลาแดง. ก็เห็นว่าผมชำไรไปบัญชีเดียวแล้วอีกบัญชียังอยู่. ผมได้โทรไปถามเจ้าหน้าทีทางเจ้าหน้าที่บอกว่าเลยเวลาทำการไม่สามารถเช็คได้
แล้วทำไมครับคนหาเช้ากินค่ำไม่อยากเป็นหนี้หาทางปลดหนี้ทำไมต้องมาหลอกลวงกัน. ลวงกันนะคราบ.  ผมโทรไปบอกว่าจะปิดหนี้ทั้งหมดกับแบงค์. ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่ๆรับผิดชอบโทรมา. ก็มีโทรมาคนเดียวผมก็คิดว่ามีแค่นี้
เพราะผมมีแค่บัตรกดกับแบงค์นั้นใบเดียว. เครมีเจ้าหน้าทีโทรมาวาจะเอาสินเชือเพิ่มไหมผมก็ตกลงโดยส่งแฟกเอกสารบัตรประชาชนไปให้แล้วก็มีเงินโอนเข้าบัตรชีผมก็ไม่รู้ว่า ผมจะเป็นหนี้กับแบงค์แยกเป็นสองบัญชี ครับ พอปิดหนี้ก็รู้สึกดีแต่พอเช็คแล้วเสียใจมากคราบ. อยากจะบอกคนที่อ่านนะคราบอย่าไปหลงเชื่อกับแบงค์มากนัก. ต้องเช็คเครดิตบูโรก่อนนขครับแล้วคุยกะแบงค์นะครับ
แบงค์ต่างชาติก็งี้นะครับ. อย่าหลงเชื่อมันมากเราต้องเช็คข้อมูลก่อนนะครับ
จะได้ไม่โง่แบบผมนะคราบ. ผมมีาัตรกดเงินสดกะแบงค์แค่ใบเดียว ผมก็คิดว่าหนี้รวมนี้เป็นหนี้ทั้งหมด
ผมก็โทรไปที่แบงค์ก็ ก็เพราะอยากปลดหนี้. พยายามเก็บเงินมาตั้งนานนะครับ
รู้งี้ไม่จ่ายยังจะรู้สึกดีซะกว่า. เพราะทุกครั้งที่ผมคุยผมบอกว่าหนี้ทั้งหมดที่ผมมีกะแบงค์นั้นมีเท่าไหร่. เขาก็แจ้งมาผมก็จ่ายพอเช็คกับเป็นว่าผมปิดบัญชีสินเชื่อ. พอโทรไปกับเจ้าหน้าที่ที่ผมติดต่อชำระ. (บริษัทกฎหมายนะครับ)เค้าก็บอกว่าเขารับผิดชอบแค่บัญชีเดียว
แล้วจะติดต่อทางแบงค์ให้แล้วจะแจ้งกลับคับ
แล้วทำไมcallcenter ผมโทรไปว่าจะชำระหนี้ทั้งหมดนะ. บอกผมว่าจะติดต่อเจ้าหน้าที่. ที่เกี่ยวข้องโทรมา
ก็เห็นมีโทรมาแค่คนเดียว
แบบนี้. เข้าค่ายหลอกล่วงไหมครับ. หนี้ผมนะตั้งแต่ปี 2006 แล้ว.
คนหาเช้ากินค่ำนะครับอยากปลดหนี้. ถ้าเจ้าหน้าที่ประสานงานให้ดีคงไม่เป็นแบบนี้. ผมคงหาทางจ่าย. อยู่แล้วแต่ตอนคุยบอกทั้งหมดมีแค่นี้นะครับ. ผมก็คนธรรมดานะครับ. จะรู้รายละเอียดไรมากมายเจ้าหน้าที่บอกว่ามียอดเท่านี้. ผมก็ยอมขอต่อรอง จ่ายก้อนเดียวเลย. เงินที่เก็บออมนะครับ. คิดแต่จะเอาเปอร์เซ็นต์กันอย่างเดียว. ไม่สนใจ
จะให้ข้อมูลไม่ครบก็ไม่สนใจ. ขอให้เช็คให้ดีนะครับ.
จะได้ไม่โง่แบบผม. ไม่รู้จะทำไงแล้วครับ

โดนเหมือนกันค่ะ "ธ.นครหลวงยิว" ส่งฟ้อง ดิฉันไปประนีประนอมยอมจ่ายหน้าศาลเดือนละ 1500 บาท
เป็นบัตรวีซ่าและมาสเตอร์ 2 ใบ แต่ใช้วงเงินเดียวกันฟ้องในหมายศาลเดียวกัน
ดิฉันจ่ายเดือนละ 1,500 บาท เข้าใบที่เหลือหนี้น้อยก่อน
จ่ายไปประมาณ 10,000 กว่าบาท และแล้ววันหนึ่งโทรศัพท์มหาภัยก็โทรเข้ามา
จนท: "ขอให้ชำระหนี้ทั้งหมดที่ค้างอยู่เพราะทำผิดสัญญาที่ตกลงไว้"
ดิฉัน: "จะผิดได้ยังไงในเมื่อจ่ายอยู่ทุกเดือน"
จนท: "แต่อีกบัตรไม่จ่าย"
ดิฉัน: "ก็บัตรมันวงเงินเดียวกัน ยอดตามบันทึกศาลก็คือ 1,500 บาท ดิฉันก็จ่ายถูกต้องทุกอย่าง"
จนท: "แต่อีกบัตรไม่มียอดจ่ายเข้ามานะคะ แบ่งจ่ายทั้งสองบัตรค่ะ"
ดิฉัน: "อ้าว ก็แล้วทำไม่วันที่ไปศาลถึงไม่แจ้งละคะ"
(พอไปเปิดดูบันทึกก็ไม่มีบอกว่าต้องจ่าย 2 บัตรเท่า ๆ กัน ด้วย)
จนท: "อันนี้ดิฉันไม่ทราบค่ะ แล้วคุณจะจ่ายส่วนที่เหลือเมื่อไหร่คะ"
ดิฉัน: "คงจะไม่จ่ายค่ะ เพราะไม่มีเงินก้อนจะไปจ่ายค่ะ"
จนท: "งั้นดิฉันคงต้องดำเนินการตามกฎหมายค่ะ"
ดิฉัน: "คงจะต้องยังงั้นค่ะ" (พร้อมวางหูไปด้วยความมึนงง แล้วตามมาด้วย "โง่จริง ๆ แกนี่่!"

นิทานเรื่องนี้สอนให้ตัวเองรู้ว่า
1) ควรมีสติ แล้วตามเรื่องให้ถึงที่สุดว่า 10,000 กว่าบาทที่เสียไปตัดยอดให้ชั้นเท่าไหร่
2) แล้วไอ้คำว่าถ้าไม่จ่ายจะดำเนินการตามกฎหมายคืออะไร
3) ได้ความแล้วก็มาปรึกษารุ่นพี่ซะ

ขอแชร์ประสบการณ์กับเพื่อน ๆ เผื่อใครโดนเหมือนกันจะได้ตั้งสติดีๆ อย่าเสียเงินฟรี เงินใช้ง่าย หายาก

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ชีวิตจริงสอนให้รู้ว่า

1 มีสติ ทุกสถานการณ์
2 มองและอ่านให้ละเอียด
3 ถามถ้ามีข้อสงสัย

ตัวคุณเอง รู้ทั้งรู้ว่า มี 2 บัตร ฟ้องก็ฟ้อง 2 บัตร แต่กลับนิ่งเฉย นึกว่า
เจ้าหนี้ใจดีละสิ ถ้าไม่จ่ายตามคำยอม เท่ากับอีกใบที่ไม่มีเงินเข้าไป
เพราะคุณจ่ายเข้าไปที่เลขบัญชีเดียวนั้น เขาจะมาบังคับคดีคุณนะค่ะ

ณวันที่ 2.8.55

ปิดฟริสช้อย ไป 31.7.55 ยอดเงิน 82,000 ปิดที่ 27,000 (เงินต้น 70,000) จ่ายงวดเดียว

ปิดโลตัส วีซ่า 2.8.55 ยอดเงิน 44,500 ปิดที่ 23,000 (เงินต้น 39,000) จ่ายงวดเดียว

: มีซิตี้ที่ปิดไม่ลงค่ะ นัดขึ้นศาลครั้งที่ 2 8.8.55 ยอดฟ้อง 130,000 (เงินต้น 110,000) ผ่อนไปได้ 1 ปีแล้ว (กู้มา 130,000 ส่งไป 1 ปี ผ่อน 4 ปี เดือนละ 4379 บาท ผ่อนไป 1 ปี ยอดเงินต้นลดไป 20,000)
หยุดจ่ายเดือน 10/54 ฟ้องไปศาลครั้งแรก 20.6.55 ขอเลื่อนไปต่อลองส่วนลดกับcity ต่อรองแล้วเค้าลดให้เต็มที่ให้จ่ายที่ยอด 90,000 แต่เรามีเงินไม่พอ เค้าก็บอกว่าให้ไปทำยอมที่ศาล ผ่อนเอา 24 งวด จากยอดฟ้อง ตกเดือนละ 5,416 บาท ตอนที่ยังส่งให้ ส่งอยู่เดือนละ 4379 บาท แล้วส่งไม่ไหวขอปรับโครงสร้างหนี้ให้จ่ายเดือนละ 3000 บาท แต่ทาง City ไม่อนุมัติค่ะ ก็เลยหยุดส่ง แล้วก็โดนหมายศาล ก็เลยงงว่าแล้วเราจะเอาที่ไหนไปผ่อนไหวค่ะ ห้าพันกว่าบาท ไม่รู้ว่าศาลท่านจะเมตตาเราแค่ไหน เราก็เตรียมเอกสารคชจ.ต่างๆของแต่ละเดือนไว้ไปขอความเมตตาจากท่านดูค่ะ ว่าพอจะลดยอดการผ่อนชำระต่อเดือนได้บ้างไหม

: มีบัตรกสิกรอีกใบค่ะ เป็นบัตรเครดิต เมื่อ 2 เดือนก่อน ธนาคารให้ส่วนลดจ่ายงวดเดียวจบ 30,000 (จากยอด 52,000 แต่ตอนนั้นยังไม่มีเงิน ก็เลยยังไม่ได้ปิด ) ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา โทรเข้าไปจะปิดธนาคารบอกว่าได้ส่งเรื่องไปยังสำนักกฎหมาย C.A.L. แล้วให้เบอร์ไปคุยกันเอง พอโทรไปคุย เค้าบอกว่าต้องจ่ายงวดเดียวที่ยอด 50,000 บาท ถ้าไม่จ่ายก็รอหมายศาลที่บ้านแล้วไปทำยอมผ่อน 24 งวดเอาแล้วกัน ก็เลยงงว่า สำนักกฎหมายนี้ ทำไมไม่คุยเรื่องให้ส่วนลดจะฟ้องอย่างเดียวเลย พอจะคุยกับกสิกร ๆ ก็ไม่คุยด้วยให้ไปคุย สำนักกฎหมายเอง (เป็นสำนักกฎหมายเดียวกับcity ที่ฟ้องอยู่ค่ะ)

: กรุงศรีสมายแคชก็เหมือนกันค่ะ ไม่มี่ส่วนลดให้ต้องจ่ายยอดเต็ม(ทั้งที่เป็นเครือเดียวกับเฟิร์สช้อย และ โลตัส ไม่มาตราฐานเดียวกัน

: KTC ยิ่งหนักกว่าใคร บอกว่าทาง KTC ไม่มีนโนบายเรื่่องส่วนลด ลูกค้าต้องคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยบางส่วนเท่านั้น ไม่มีส่วนลดใดๆทั้งสิ้น และทิ้งท้ายว่ายังไงคุณก็ต้องจ่ายอยู่ดี



อัพเดทให้อ่านกันนะค่ะเพื่อเจอสถานการณ์เดียวกันก็ช่วยกันแชร์ข้อมูลบ้างค่ะ

ขอโทษค่ะ ดิฉันสัญญาว่าจะไม่พิมพ์อะไรในเว็บนี้อีกค่ะ

ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ...
ที่เราทัก เราท้วงเพื่อความเรียบร้อยของบอร์ด ถ้าไม่มีผู้ดูแลระบบ ไม่มีคนคอยตักเตือน บอร์ดเราจะอยู่ได้ยังไง ถ้าทุกคนขยันตั้งคำถามทุกๆครั้งที่สงสัย ป่านนี้หน้าของห้องถามตอบ คงยาวไปถึงสุไหงโกลก โน้น...
คนละกระทู้ ก็เหมาะแล้ว เพื่อนๆจะได้ตามติดปัญหาของคุณได้ว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร
เขาจะได้ช่วยแก้ปัญหาของคุณได้ตรงจุด
เราไปอยู่ที่ไหนๆ เราก็ต้องเคารพกติกาของบ้านนั้นๆ

เรื่องหนี้ก็เช่นเดียวกัน...ถ้าคุณไม่ตั้งสติในการแก้ไข
แก้ปัญหาไปตามความเข้าใจของคุณ ไม่ฟังเสียงท้วงติง ไม่ฟังคำแนะนำ
มันจะไม่จบ เราเป็นกรรมการ ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำตั้งแต่เคสที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะหยุดจ่ายหรือไม่ จนไปถึงเคสปลายทาง จะโดนยึดบ้านอยู่แล้ว ทำไง?
ถ้าคุณนวล มาเป็นกรรมการบ้าง จะรู้เลยว่า เราเหนื่อย เราหนัก งานเราก็มีทำ ลูกเรา ครอบครัวเรา หนี้ของเราเราก็ต้องแก้
คุณต้องเข้มแข็ง มีสติในการแก้ปัญหา อ่านให้มากๆ
แรกๆ บัวก็ไม่ค่อยเข้าใจ ไม่มีความรู้ในเรื่องกฎหมาย อ่านๆไป บัวก็ปรับไปเรื่อยๆ ไม่เข้าใจก็อ่านของเพื่อนๆไปก่อน
ไม่ใช่เข้ากระทู้ทีไร ก็เอาแต่ตั้งกระทู้ ไม่ดูตาม้าตาเรือ
ปรับปรุงใหม่นะคะ ไม่ต้องตัดพ้อต่อว่า ไม่ต้องนอยด์ เพราะเรื่องนอยด์บัวถนัดกว่า 555++
เพราะถ้าปรับปรุงแล้ว ยังไม่ทำให้ดีขึ้น ต่อไปนี้ บัวหรือใครต่อใครก็จะปล่อยให้แล้วแต่บุญแต่กรรมคุณแล้วหล่ะ...

ขอบคุณค่ะ คือไม่ได้น้อยใจค่ะแต่จะไม่สร้างปัญหาแล้วค่ะจะเป็นผู้อ่านอย่างเดียว
เพราะใกล้คลอดแล้วนั่งพิมพ์ไม่ค่อยถนัดแล้ว ไปศาลวันที่8/8/55
กำหนดคลอด 18/8/55

ฉันจะอ๊วก กับไอ้ตัวหมุนๆของแก...
อ่านไป เสือกเผลอทำท่าเอียงคอไปตามตัวหนังสือ
ช่างสรรหา...
เป็นฉัน...ฉันจะบีบคอไอ้คนทำตัวหนังสือนี้ก่อน
ยังไม่ได้ไปไหนเลย นั่งอ๊วกตรงตัวหนังสือเนี้ยแหละ...ป๊าดโธ่

พาลูกๆไปกินไก่ก่อนนะ...ลูกบอกอยากกินไก่ KFC แต่กอบัวว่า จะพามันไปกินไก่ย่างปากซอยก็พอถมถืด 55++

nunaotto เขียน: ขอโทษค่ะ ดิฉันสัญญาว่าจะไม่พิมพ์อะไรในเว็บนี้อีกค่ะ

ที่นี่ไม่ได้มีกฏไว้ว่า ห้ามสมาชิกพิมพ์ หรือ ห้ามสมาชิกถาม

แค่พวกเราขอร้องว่า หากสมาชิกอยากจะพิมพ์หรือถามอะไร ช่วยกรุณาไปพิมพ์ถามในกระทู้เดิมๆของคุณที่เคยพิมพ์ถามเอาไว้...ทำได้ไหมครับ?

มันปฎิบัติได้ยากมากหรือไงครับ?

กฏกติกาของที่นี่ก็มีบอกเอาไว้



อ้างอิงข้อมูลจาก
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=710&Itemid=29#713

คำถามที่คุณเคยถามมาตั้งแต่แรก มันจะได้ต่อเนื่อง อ่านแล้วรู้เรื่องว่ามี ทีมา-ที่ไป เป็นอย่างไร คนที่เข้ามาอ่านจะได้เข้าใจ และจะได้ให้คำแนะนำได้ถูกต้อง

และที่สำคัญ...กระทู้คำถามที่เกิดขึ้นจะได้ไม่รกบอร์ด ...เข้าใจไหมครับ?

ถ้าเรื่องแค่นี้ขอกันไม่ได้ ทำให้ไม่ได้ ผมก็ไม่อยากให้คำแนะนำอีกต่อไป
ก็อยากรู้เหมือนกันว่า ความรู้และคำตอบต่างๆที่มีอยู่มากมายในเวปบอร์ดแห่งนี้ มันจะวิ่งเข้าไปหาคุณเองไหม?

ขอโทษที่ต้องผิดคำสัญญาแต่อดไม่ได้จริงๆ
อิออนโทรมาบอกว่าจะมีหนังสือไปให้หัวหน้างานที่ทำงานเซ็นเพื่อให้รับรู้ว่าลูกน้องเป็นหนี้เท่าไหร่ ก็เลยปรี๊ดเลย