รบกวนสอบถามหน่อยครับ

ตอนนี้ผมเป็นหนี้บัตรเครดิตและนอกระบบเยอะมาก และตอนนี้ได้กู้เงินเพื่อมาใช้หนี้พวกนี้กับทางธนาคารไทยเครดิต

โดยการเอาบ้านที่มีไปจำนอง ทางธนาคารตอนนี้อนุมัติเบื้องต้นแล้วว่าผ่านโดยให้ผมส่งพวกใบแจ้งยอดบัตรเครดิตไป ธนาคารจะเป็นคนชำระให้

ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่กังวลเท่าไหร่ ส่วนหนี้นอกระบบทางธนาคารขอสำเนาบัตรประชาชนเจ้าหนี้และสัญญาเงินกู้ โดยธนาคารจะเป็นคนชำระให้อีกเช่นกัน


คือผมอยากจะปรึกษาหน่อยครับว่ามีใครเคยทำเรื่องกู้แล้วเจอเคสแบบผมหรือไม่ครับ ผมสงสัยว่าทำไมธนาคารไม่โอนมาให้ผมไปจัดการเอง

เพราะที่ผมคุยกับพนักงานของธนาคารไทยเครดิต เขาใช้เบอร์มือถือโทรมาคุยเรื่องนี้ตอนหลัง ซึ่งครั้งแรกใช้เบอร์ธนาคารโทรมาเรื่องเตรียมเอกสารต่างๆ

คือผมกังวลใจนิดหน่อยครับ กลัวว่าพนักงานคนนี้อาจเปลี่ยนเจ้าหนี้ผมเป็นคนรู้จักของเขาแล้วเชิดเงินไปทำนองนั้น

หรือผมกังวลมากไปครับ ใครมีวิธีป้องกันหรือเคยเจอเคสแบบนี้หรือป่าวครับ ขอบคุณครับ

พี่อังแนะนำโทรหาสายด่วนฮอตไลน์ มีเบอร์กรรมการอยู่ที่นั่น โทรตามเวลาที่กรรมการกำหนดนะ

Angsuu เขียน: พี่อังแนะนำโทรหาสายด่วนฮอตไลน์ มีเบอร์กรรมการอยู่ที่นั่น โทรตามเวลาที่กรรมการกำหนดนะ

ขอโทษทีครับ หมายถึงเบอร์ไรครับ คือผมมือใหม่อ่าไม่ค่อยรู้เรื่องในบอร์ด เพิ่งสมัครวันนี้เอง

ขอบคุณครับ

อ๋อ เจอแล้วครับ ขอบคุณครับพี่อัง

เรื่องของคุณเป็นวิธีที่ผิดมากๆๆ ใครนะแนะนำให้คุณทำเช่นนั้น ความหมาย หาหนี้ใหม่มาใช้หนี้เก่าก็เท่านั้น
ในที่สุดก็เป็นหนี้อยู่ดี และหนี้ตัวนี้ก็เป็นหนี้ยาวนานแสนนานอีกด้วย ทำไมไม่อ่านทำความเข้าใจการล้างหนี้

น่าจะลองอ่านปักหมุดดูก่อน แล้วค่อยตัดสินใจใหม่นะครับ....

การรวมหนี้ เป็นอีกวิธีที่แก้หนี้ได้ก็จริง แต่ระยะเวลาและยอดเงินที่ต้องจ่ายโดยรวมแล้ว มันมหาศาลเลยครับ รวมถึงคุณต้องมีวินัยในการใช้จ่าย ไม่ไปสร้างหนี้ขึ้นมาอีกตลอดเวลาที่ต้องจ่ายหนี้ที่ใหม่ ไม่งั้นก็อาจจะมีปัญหาใหญ่ตามมาได้อีกนะครับ....

แก้วจ๋าได้ตอบเมล์คุณแล้วนะ ว่าให้คิดรอบคอบก่อนตัดสินใจ
ว่า คุณจะแบกหนี้ก้อนใหม่หรือไม่ค่ะ ถ้ายังมีเวลา ช่วยไปอ่าน
ที่น้องเขาแนะนำนะค่ะ ไม่อยากให้คุณกลับมา โอดว่า แบกหนี้
ก้อนใหม่ไม่ไหว แล้วจะทำยังไง การมีหนี้เป็นสิ่งไม่น่าอาย ถ้า
คุณจะแก้ไขในสิ่งที่พลาดไปด้วยตัวเอง เราทุกคนต้องใช้ความ
อดทน เพื่อปลดหนี้อย่างถาวรและไม่ใช่ใช้วิธีทางลัดด้วยการย้าย
หนี้/โอนหนี้ จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งค่ะ

ส่วนเรื่องที่ถาม ผมสงสัยว่าทำไมธนาคารไม่โอนมาให้ผมไปจัดการเอง
ธนาคารเขาก็กลัวคุณเชิดเงินเหมือนกันค่ะ คุณไม่เคยอ่านสัญญาของเขา
หรือโปรแกรมโอนหนี้ก่อนขอไปหรือค่ะ

ตามที่บอกในเมล์ ทุกธนาคารเขาจะจ่ายแทนคุณ ในกรณีของการ
refinance ค่ะ

เรียน สมาชิกที่ใช้ชื่อว่า kimchiboy

คุณก็ได้ส่งเมล์ข้อความเช่นนี้มาถามผมเหมือนกัน

เรียน คุณนกกระจอกเทศ

ตอนนี้ผมเป็นหนี้บัตรเครดิตและนอกระบบเยอะมาก และตอนนี้ได้กู้เงินเพื่อมาใช้หนี้พวกนี้กับทางธนาคารไทยเครดิต โดยการเอาบ้านที่มีไปจำนอง ทางธนาคารตอนนี้อนุมัติเบื้องต้นแล้วว่าผ่านโดยให้ผมส่งพวกใบแจ้งยอดบัตรเครดิตไป ธนาคารจะเป็นคนชำระให้ ส่วนหนี้นอกระบบทางธนาคารขอสำเนาบัตรประชาชนเจ้าหนี้และสัญญาเงินกู้ โดยธนาคารจะเป็นคนชำระให้อีกเช่นกัน

คือผมสงสัยว่าทำไมธนาคารไม่โอนมาให้ผมไปจัดการเอง เพราะที่ผมคุยกับพนักงานของธนาคารไทยเครดิต เขาใช้เบอร์มือถือโทรมาคุยเรื่องนี้ตอนหลัง ซึ่งครั้งแรกใช้เบอร์ธนาคารโทรมาเรื่องเตรียมเอกสารต่างๆ

คือผมกังวลใจนิดหน่อยครับ กลัวว่าพนักงานคนนี้อาจเปลี่ยนเจ้าหนี้ผมเป็นคนรู้จักของเขาแล้วเชิดเงินไปทำนองนั้น หรือผมกังวลมากไปครับ มีวิธีป้องกันหรือเคยเจอเคสแบบนี้หรือป่าวครับ ขอบคุณครับ

ซึ่งผมก็ได้พิมพ์ตอบเมล์คุณไปแล้วแบบ ประโยค-ต่อ-ประโยค ดังนี้

---

> คือผมสงสัยว่าทำไมธนาคารไม่โอนมาให้ผมไปจัดการเอง
เพราะเคยมีตัวอย่างว่า พอลูกหนี้ได้เงินจากธนาคารไทยเครดิตไปแล้ว ไม่ยอมไปชำระหนี้ต่างๆตามที่แจ้ง แต่กลับเอาเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่น หรือบางทีก็หนีหายไปดื้อๆเลย(เช่นหนีไปอยู่ ลาว,เขมร,พม่า เป็นต้น) แถมยังไปทำเรื่องกู้แบบนี้กับธนาคารอื่นๆพร้อมกันอีกด้วย เช่น ธนาคาีรออมสิน , TMB , ธนาคารอิสลาม , ไทยพาณิชย์ , กสิกร...ฯลฯ...รวมๆแล้วได้ไปหลายสิบล้านบาท ก่อนที่จะหนีหายไป

ดังนั้น ในปัจจุบัน จึงไม่มีธนาคารไหนสักราย ที่จะให้กู้เงินเพื่อไปรีไฟแนนซ์หนี้เก่าเดิมที่มีอยู่ โดยการจ่ายเป็นเงินสดหรือโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ร้องขอกู้



> เพราะที่ผมคุยกับพนักงานของธนาคารไทยเครดิต เขาใช้เบอร์มือถือโทรมาคุยเรื่องนี้ตอนหลัง ซึ่งครั้งแรกใช้เบอร์ธนาคารโทรมาเรื่องเตรียมเอกสารต่างๆ
ทางชมรมฯแห่งนี้ ไม่เคยสนับสนุนให้คนที่เป็นหนี้ ไปทำการรวมหนี้เพื่อกู้ที่ใหม่มานานแล้ว
และต่อต้านการกระทำแบบนี้มาโดยตลอด 9 ปีที่ผ่านมา โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ทั้ง นสพ. , วารสาร , วิทยุ , โทรทัศน์(แทบจะทุกช่อง)...ว่ามันเป็นการแก้ปัญหาหนี้ที่ผิดวิธี ซึ่งพวกเราเรียกวิธีการแบบนี้ว่า การแก้ไขปัญหาหนี้แบบ THIRDWAY OUT (สามารถไปอ่านรายละเอียดได้จากในกระทู้นี้)

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=29



>
> คือผมกังวลใจนิดหน่อยครับ กลัวว่าพนักงานคนนี้อาจเปลี่ยนเจ้าหนี้ผมเป็นคนรู้จักของเขาแล้วเชิดเงินไป ทำนองนั้น หรือผมกังวลมากไปครับ
เรื่องนี้ผมไม่ทราบครับ ว่าเขาจะโกงคุณหรือเปล่า...เพราะพวกเราไม่ใช่เจ้าหน้าที่ผู้ปล่อยกู้... แต่...พวกเราเป็นฝ่ายที่อยู่ข้างเดียวกันกับลูกหนี้และภาคประชาชน
ดังนั้นสำหรับคำถามในข้อนี้ ผมไม่สามารถตอบให้ได้ครับ



> มีวิธีป้องกันหรือเคยเจอเคสแบบนี้หรือป่าวครับ
ไม่สามารถให้คำแนะนำได้ครับ เพราะทางชมรมฯแห่งนี้ ไม่สนับสนุนให้ใช้วิธีการแบบนี้มาตั้งนานแล้ว...และจะทำการ"รณรงค์"ต่อไป



> ขอบคุณครับ
ตอบให้แล้วนะครับ

---

แต่...เรื่องที่ทำให้ผมไม่ค่อยจะพอใจนักก็คือ

การที่คุณส่งเมล์คำถามแบบนี้ ส่งไปถามถึง ประธานฯ , รองประธานฯ , กรรมการชมรมฯอีกหลายท่าน...คุณทำเพื่ออะไร?

คุณไม่มั่นใจในการตอบให้คำปรึกษาของแต่ละคนที่คุณต้องการถาม จึงต้องการทำ Double check อย่างนั้นหรือครับ?

การกระทำของสมาชิกในลักษณะเช่นนี้ ได้เคยถูกนำไปเสนอในที่ประชุมครั้งที่ 4/2553 คณะกรรมการชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล (วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม 2553) ณ.ห้องประชุม มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ห้างเซนจูรี่(ชั้น 6)อนุสาวรีย์ชัยฯ ในหัวข้อที่ 4.4
ตามเนื้อหาในด้านล่างนี้



โดยเหตุการณ์ในช่วงนั้น มีสมาชิกที่กระทำการส่งเมล์ถามแบบ"หว่านแห"ในลักษณะเยี่ยงคุณอยู่หลายท่าน
ซึ่งก็มีบางครั้งที่ผมส่งเมล์ตอบกลับไปว่า

เรียน คุณ xxxx xxxxxx

ถ้าคุณอยากจะถามกรรมการท่านไหน ก็ช่วยกรุณาส่ง mail ถึงเฉพาะกรรมการท่านนั้นๆ เป็นรายบุคคลๆไป
ไม่ใช่ใส่ชื่อ e-mail สาดถามกระจายไปซะหมด ทุกคนทุกชื่อ

ถ้าสมาชิกทุกคนในชมรมฯนี้ ทำนิสัยแบบคุณเหมือนกันหมดทุกคน(สาดถามมันหมด ทุกคน ทุก mail ของกรรมการ)
แล้วคิดบ้างไหมว่า mail ของพวกผม...จะล้นกันแค่ไหน?

ไม่ใช่ไม่อยากช่วยนะครับ...ยินดีช่วยเป็นอย่างยิ่ง แค่อยากให้รู้จักคำว่า "เกรงใจกันบ้าง"...ก็เท่านั้นเอง
อันที่จริงในการส่งเมลล์ถามผู้คนอื่นๆ เพื่อขอความช่วยเหลือนั้น คงไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้มั๊งครับว่า
ขอให้ส่งเมลล์ถามแค่ใครคนใดคนหนึ่งก็ได้ ที่คุณอยากจะถามก็พอ ไม่ใช่หว่านถามมันไปให้หมดทุกคนทุกเมลล์
เพราะมันเป็น "มารยาท" ขั้นพื้นฐานธรรมดาทั่วๆไป ที่ควรรู้กันดีอยู่แล้ว...เรื่องแบบนี้ต้องให้สอนกันด้วยหรือครับ?

สมมุติตัวอย่างเช่น คุณต้องการร้องเรียนเรื่องที่ข้างบ้านของคุณ เขาเลี้ยงหมาเอาไว้หลายตัว
แล้วหมาเหล่านั้นส่งเสียงเห่าหอนในเวลากลางคืน ทำให้คุณรำคาญและหนวกหูมาก จนทำให้คุณนอนไม่หลับ
คุณก็ควรส่งเรื่องร้องเรียนไปที่เขต(อำเภอ) ณ.สถานที่ตั้งของบ้านคุณอาศัยอยู่ใช่ไหมครับ?

หรือคุณจะส่งเรื่องร้องเรียนมันไปทั้งหมดเลย เพื่อทุกคนให้ได้รับทราบถึงความลำบากของคุณ...ไม่ว่าจะเป็น

ท้องที่เขต(อำเภอ) , สถานีตำรวจ , เทศกิจ , ส.ก. , ส.ข. , ส.ส. , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ไม่เว้นแม้กระทั่ง นายกรัฐมนตรี

จะเอากันถึงขั้นนั้นเลยหรือครับ?

หวังว่าคุณคงจะเข้าใจนะครับ