- จำนวนโพสต์: 1164
- ขอบคุณที่รับ: 1076
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้องช๊อคโกแลต เขียน: น้องใหม่ครับ แต่หยุดจ่ายทุกตัวมาตั้งแต่เดือน 9 ปีที่แล้วครับ แอบอ่านมานานครับ
อ่านกระทู้ทั้งใหม่ และเก่า แต่บอกตรงๆว่าก็ยังมีมั่ว มีเข้าใจผิด มีพลาดบ้าง ฝากพี่ๆตักเตือนด้วยครับ
หนี้ทั้งหมด
Citi Advance 8x,xxx Hair cut แล้วที่ 46,xxx
Citi Ready ยอดปัจจุบันอยู่ที่ 12x,xxx ยังไม่ฟ้อง
Citi Visa1 ยอดปัจจุบันอยู่ที่ 14x,xxx ฟ้องแล้ว รอขึ้นศาล
Citi Visa2 ยอดปัจจุบันอยู่ที่ 7x,xxx ยังไม่ฟ้อง
Standard ยอดปัจจุบันอยู่ที่ 9x,xxx ยังไม่ฟ้อง
UOB บัตรเงินสด 10x,xxx Hair cut แล้วที่ 65,000
UOB Personal loan ยอดปัจจุบันอยู่ที่ 13x,xxx ยังไม่ฟ้อง
HSBC Visa ยอดปัจจุบันอยู่ที่ 9x,xxx ยังไม่ฟ้อง
CIMB Personal loan ยอดปัจจุบันอยู่ที่ 13x,xxx ยังไม่ฟ้อง
มีทรัพย์สินเป็นรถยนต์ 1 คัน ย้ายเป็นชื่อญาติไปแล้วครับ
บ้าน 1 หลังยังผ่อนอยู่ เดือนละ 8,100 บาท เป็นชื่อร่วม ไม่รู้จะย้ายเป็นชื่อใคร หาคนไว้ใจได้ยากครับ
รวมหนี้ที่เหลือทั้งหมดประมาณ 77x,xxx ที่เป็น xxx นี่พอดี excel ที่ใช้คำนวนหนี้ผมไม่ได้ติดมาด้วยครับ เลยขอใช้เป็น xx ไว้ก่อน
ตอนนี้เก็บเงินก้อนใหญ่ได้ก้อนนึงครับ คิดว่าจะพยายามปิดใบที่เงื่อนไขดีทึ่สุด และฟ้องก่อนเป็นหลัก
แต่ชีวิตจริงไม่ได้อิงนิยายครับ ตอนนี้เจ้าที่โทรมา มี Citi, Standard และ UOB ครับ
ขอแชร์ประสพการณ์ที่พบอยู่ตอนนี้ให้ฟังครับ
ปอลิง รายละเอียดส่วนไหนที่ทางแอดมินคิดว่าเปิดเผยข้อมูลมากเกินไปสามารถลบออกได้เลยนะครับ
เจ้าแรก Citi Advance คนติดตามทวงหนี้เสียงดุ กระโชก โฮกฮากมาก แต่คำพูดสุภาพนะครับ
เอาจริงๆคุยง่าย ไม่ยุ่งยากเหมือนเสียงเลยครับ รายนี้โทรมาถามว่าจ่ายไหวที่เท่าไหร่
ผมเลยถามว่าแล้วทางนั้นสามารถให้ได้เท่าไหร่ ใบนี้ยอดผมอยู่ที่ประมาณ 8x,xxx รวมทั้งต้น ทั้งดอก
ตัวนี้ผมผ่อนมานานจนใกล้จะหมดแล้ว ทางนั้นเลยเสนอลดให้ 50% เลย
ซึ่งผมเองก็มีกำลังจ่ายไหวจึงตัดสินใจปิดไปเป็นเจ้าแรก Happy ending ครับ
ใบต่อมา Citi Visa ยอด 14x,xxx ใบนี้ไม่โทรถามเลยครับ อยู่ๆมีหมายศาลมาแปะเลย
ก็เลยปรึกษาต้องเป็นธุรให้กับคุณอา ช่วยเขียนคำให้การ ขึ้นศาลนัดแรก ขอเลื่อนเนื่องจากหลักฐานไม่ครบ
ทนายฝ่ายโจทก์เห็นลักษณะการให้การผมแบบนี้ก็เดาได้ว่าคนชมรมแน่ ไม่พูดมากเลยครับเลื่อน
เลื่อนไป 1 เดือนครึ่งได้ ครั้งที่สอง ก็เลื่อนอีก เนื่องจากทางคุณอาติดว่าความ และขอเบิกพยาน 1 ปาก
คราวนี้เลื่อนไปร่วม 2 เดือนครับ ระหว่างนี้ทาง Citi มีโทรมายื่นขอเสนอครับ แต่ไม่มีข้อเสนอน่าสนใจ
เช่น ทำประนอมหนี้ ผมบอกผมไม่ประนอมครับ อยากจ่ายทีเดียว ทางนั้นหายไปพักนึงมีโทรมาอีกรอบ
เสนอว่าลดได้ไม่เกิน 35% บอกว่าเป็นนโยบายของทาง Citi ซึ่งถ้าเราขึ้นศาล ทางเราแพ้แน่ แถมไม่ได้ส่วนลด
ต้องจ่ายทั้งต้น ทั้งดอก และต้องเสียค่าทนาย ค่าธรรมเนียมฤชา มากมายหลายพัน คือตัวนี้ทางนั้นบอกว่า
ถ้าผมแพ้ ผมจ่ายไม่ต่ำกว่า 17x,xxx เลยนะ ผมตกใจร้องเฮ้ย เป็นไปได้ไงฟ้อง 14x,xxx ถ้าแพ้จ่าย 17x,xxx
ไม่ใช่พนันบอลนะเฮ้ย ตอนนั้นหัวเสียมากตะคอกกลับไปว่า "ผมกินข้าวนะ ไม่ใช่กินหญ้า ค่าทนายอะไรเป้นหมื่น
จ้างมาจากดาวนาแม็กรึไง" หลังจากด่าไปชุดนึง ทางนั้นก็ตอบกลับมาสั้นๆว่า "สรุปว่าไม่รับข้อเสนอใช่มั๊ยคะ
น่าเสียดายนะคะ ทางเราจะดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด ขอบคุณคะ" แล้ววางไป ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าครับ
ใบที่ 3 UOB แบงค์นี้ผมติดอยู่ 2 ใบคือ Personal Loan และ บัตรเงินสด แบงค์นี้สร้างความสับสน งงงวยให้ผมเป้นอย่างมาก
เริ่มจากเจ้าหน้าที่โทรมา ยืนข้อเสนอว่าให้ตัดจบทั้งสองใบ โดยที่เงื่อนไขตอนแรกนั้น ใบบัตรเงินสด 1xx,xxx
ตัดยอดที่ 9x,xxx และ ใบ Personal 13x,xxx ตัดยอดที่ 11x,xxx ซึ่งทั้งสองใบ ยอดที่แจ้งมานั้นรวมทั้งต้นและดอกแล้ว
สำหรับส่วนลดแค่นี้ผมจึงปฎิเสธไป และขอสู้หน้าศาล ทางพนักงานก็มาแนวเดียวกันว่า สำหรับ UOB คุณไม่มีทางชนะหรอก
แถมยังจะต้องเสียค่าทนาย ค่าธรรมเนียม ค่าฤชา มากมาย ทำไมถึงไม่รับข้อเสนอเรา ผมก็บอกไปเหมือนเดิมว่า
ผมเองมีหนี้หลายแบงค์ แต่เจตนาต้องการชดใช้หนี้ทุกแบงค์ที่ติด แต่คงต้องขอพิจารณาให้กับแบงค์ที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุด
จบการสนทนาครั้งนั้นไป ไม่กี่วันทางแบงค์โทรมาใหม่ โดยมีข้อเสนอที่น่าสนใจคือ
ใบบัตรกดเงินลดเลือ 65,000 แบ่งจ่ายสองงวด และ ใบ Personal เหลือ 77,000 แบ่งจ่ายสองงวด
อย่างที่ผมบอกว่า ผมเองมีเงินเก็บอยู่ระดับนึง คิดว่าสำหรับเงื่อนไขนี้ก็พอรับไหว เนื่องจากแบงค์อื่นๆ
ยังไม่ฟ้องมา และ เคยได้ยินว่า UOB หลังฟ้องจะคุยยาก ได้ประมาณนี้ก็ดูโอเคแล้วสำหรับผม
จึงตอบรับว่าจะทำการปิดปัญชีตามที่ตกลงกัน แต่เกมพลิกครับ ใบบัตรกดเงินไม่มีการเปลี่ยนเงื่อนไข
แต่ใบ Personal บอกว่าผมกู้เงินมาแล้วทำการจ่ายคืนเพียงแค่ 2 งวดจึงลดให้ไม่ได้ เต็มที่คือลดได้แค่
110,000 บาท ซึ่งเรียกว่าแทบจะเท่ากับจำนวนเงินต้น ต่างกันไม่ถึงหมื่น แล้วต้องจ่ายเงินทันที
ทางพนักงานพยายามบอกให้ผมจ่ายเงินภายในวันพรุ่งนี้ให้ได้ เพื่อได้รับข้อเสนอสุดคุ้มอันนี้
ผมจึงปฎิเสธที่จะปิดใบนี้ไปอย่างสุภาพด้วยการพูดว่า "มีสมองหรือเปล่าครับ แบบนี้เค้าไม่เรียกข้อเสนอแล้วครับ
เค้าเรียกบังคับขู่เข็ญ ผมไม่ได้กินหญ้านะครับ เจอกันที่ศาลครับ"
หลังจากนั้นทาง UOB เองพยายามโทรมาทุกวันเพื่ออธิบายว่าทำไมถึงลดไม่ได้ ทางแบงค์ไม่มีนโยบาล
ที่จะลดหนี้มากกว่า 35% แม้จะอยู่ในขั้นตอนการฟ้องก็ตาม นั่นคือ คุณจะไม่มีวันได้ข้อเสนอแบบนี้อีกแล้ว
ถ้าคุณโดนฟ้องคุณมีแต่เสียกะเสีย บลาๆ โทรมาทุกวันจนหงุดหงิด ผมเลยบอกไปว่า
"ถ้าไม่ได้ข้อเสนอตามที่ตกลงกันไว้ตอนแรก ผมก็จะไม่จ่ายครับ" ทางนั้นก็บอกว่า "งั้นเราจะวิ่งเรื่องไปตามขั้นตอนนะคะ
เนื่องจากยื่นข้อเสนอให้ลูกค้าแล้ว ลูกค้าไม่ตกลง" ณ ปัจจุบัน ตอนนี้ก็ยังเงียบอยู่ครับ
ล่าสุดบ่ายวันนี้ Citi Visa อีกใบโทรมา พูดเหมือนใบแรกเลยครับว่า นโยบายใหม่ของทาง Citi คือ
ปรับลดไม่เกิน 35% จากยอดรวมทั้งหมด ทั้งต้น และดอก ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เป็นแบบนี้กันหมดเลยหรือ
เปล่าสำหรับการเริ่มเปิดเกมส์ทวงหนี้
ตอนนี้สิ่งที่ผมตัดสินใจคือ หากยอดลดรวมต้นและดอกแล้วไม่ถึง 40% ผมคงไปขอความเมตตาหน้าศาลเอา
เพราะจากที่บอกยอดลดได้สูงสุด 35% นั้น เรียกว่าหากหักดอกเหลือแต่ต้นแล้วก็แทบไม่มีส่วนลดใดๆเลย
แถมยังโดนบังคับให้จ่ายเร็วๆ ไปจ่ายพรุ่งนี้เลยนะ อะไรแบบนี้ ผมสู้ไปลุยเอาหน้าศาล ให้มีเวลาเก็บเงิน
แล้วเจรจาหน้าศาลต่อดีกว่าครับ ไม่รู้ผมคิดถูกหรือเปล่า ตอนนี้เริ่มมึนๆ อึนๆ นี่ขนาดแค่ยกแรกเอง
ยังไงผมจะมา update เคสของผมบ่อยๆนะครับ
ปอลิง อีกที หากเนื้อหาส่วนไหนเปิดเผยข้อมูลที่ไม่เหมาะไม่ควร ทาง admin สามารถทำการลบได้เลยนะครับ หรือ เพื่อนๆพี่ๆพบเห็นก็เตือนได้เลยครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้องช๊อคโกแลต เขียน: ขอบคุณพี่ batk พี่ Narasingh พี่ลี และ พี่ devil angel มากครับ
กำลังใจ ความรู้ต่างๆ ได้มาจากกระทู้ของพวกพี่ๆแหละครับ อ่านมาตั้งแต่ กรกฎา 11 จนตัดสินใจหยุดจ่าย ตุลา 11 จนถึงปัจจุบัน อ่านทุกคน ทุกเคส
ตอนนี้ของผมคงเรียกว่าทฤษฎีผ่าน กำลังเข้าสู่ขั้นตอนปฎิบัติจริงแล้ว ประสพการณ์จริงยังน้อย ยังต้องอาศัยกระทู้ของพี่ๆ และ ประสพการณ์ของสมาชิกใหม่ๆ มาช่วยกันแชร์ก่อนครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้องช๊อคโกแลต เขียน: ขอบคุณทุกกำลังใจครับ มีเพื่อนๆ พี่ๆในบอร์ดนี้ ได้อ่านเรื่องของหลายคน เป็นกำลังใจให้ผมมากเลยครับ
update
UOB บัตรเงินสด ยอด 11x,xxx ปิดที่ 65,000 บาท จ่ายงวดสุดท้ายไปเมื่อวานหลังจากเงินออกครับ ปิดบัญชีเรียบร้อยครับ
UOB Personal ยอด 13x,xxx โทรมาต่อรองกันทุกวัน วันละ 2-3 รอบ ยอด 77,000 บ้าง
80,000 ต้องจ่ายเลยบ้าง 85,000 บ้าง พนักงานจะโทรมาเสนอก่อน แล้วบอกว่าจะส่งให้นายอนุมัติ
แต่ก็ไม่ผ่านมาตลอด สุดท้าย บอกว่าผ่านจบที่ยอด 110,000 บาท เท่ากับยอดเงินต้น ผ่อนจ่าย 5 เดือน
ผมปฎิเสธไปว่าไม่ไหว มองแล้วผมตัดสินใจขอไปสู้หน้าศาล เอาเวลาไปเก็บตังค์ดีกว่าถ้าได้เหลือแค่ต้น
ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ เก็บเงินก้อนไปปิดตัวที่คุยง่ายกว่านี้ก่อนดีกว่า
แต่เมื่อวานมีพนักงานโทรมาเคาะกะลาให้หมาดีใจ ว่าจะปิดยอดที่ 77,000 สองเดือนมั๊ย
เราดีใจว่าเฮ้ย ได้ถูกแล้วยังได้แบ่งจ่ายอีก จึงตอบรับไป สุดท้ายเจ๊แกก็โทรมาบอกว่าไม่ผ่าน
เล่นเอาดีใจเก้อ ไปนั่งรอจ่ายเงินกะปิดพร้อมกันสองบัตร เล่นเอาเสียความรู้สึก
จึงโทรไประบายกับพนังงานที่รับผิดชอบ ผนักงานโดนผมกดดันไม่ไหว เลยส่งให้หัวหน้า
ผมสาดไปอีกชุด เหตุผลที่หัวหน้าเค้าบอกมาคือ
หัวหน้าพนักงาน "ถ้าคุณไม่ตัดสินใจปิดอีกใบก่อน ยอดที่คุยกันตอนแรกที่ 77,000 น่าจะผ่านสบาย"
ผม "อ่าว ตกลงความผิดผมเหรอ ผมจะรู้มั๊ยว่าปิดใบโน้นแล้วใบนี้ไม่ได้"
หัวหน้าพนักงาน "มันแสดงว่าคุณมีอำนาจในการจ่าย เราคงลดให้ไม่ได้"
ผม "เอ่อ ใช้สมองส่วนไหนคิดครับ หรือไม่มีสมองคิด งั้นอย่าหวังได้เงินจากผมเลย ไปศาลผมก็ไม่จ่าย"
แล้วก็วางไป หงุดหงิดมากครับ สรุปคงรอฟ้องจากใบนี้ บร๊ะ มีเงินให้ก็ไม่เอา ดีเงินเก็บไว้ไม่บูดครับ
ตอนนี้หลายๆแบงค์ พูดเหมือนกันว่า นโยบายเราไม่มีลดมากกว่า 30% ครับ ซึ่งเหมือนอย่างที่พี่ๆหลายๆคนบอกครับ
เราคงมารอว่าต้อง 50% ต้อง 60% อย่างเดียวไม่ได้ครับ ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาศมากกว่าครับ
อย่างหลักของผมคือ เจ้าไหนจ่ายได้ก็จ่ายก่อน ลดได้ในระดับที่พอใจ แบ่งจ่ายได้ในภาระที่รับไหว
ผมก็เลือกจ่าย แต่ผมจะไม่จ่ายโครมเดียวจนหมดตัวครับ เพราะต้องมีเงินเผื่อไว้สำหรับเรื่องฉุกเฉิน
ที่อาจเกิดขึ้นมาแบบไม่คาดคิดครับ บางคนกลัวการถูกฟ้อง บางคนกลัวโดนยึดเงินเดือน
ผมเองคงบอกไม่ได้ว่าไม่กลัว แต่เท่าที่ได้อ่านของพี่ๆ ได้เจอพี่ที่ผ่านประสพการณ์ตรงนี้มา
บอกได้แค่ว่า ถึงจะแพ้หน้าศาล ถึงจะโดนหักเงินเดือน เกมส์ก็ยังไม่จบครับ เพื่อนๆที่กำลังนอยด์
กำลังหวั่นใจ ขอให้ใจเย็นๆครับ สึ่งสำคัญคือ ทำใจให้นิ่ง และมีวินัยกับตัวเองเยอะๆครับ เก็บเงินๆ
แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีครับ ไม่ใช่ว่าผมเก่งมาสอนคนอื่นนะ ผมเองก็จิตตกหลายครั้ง
ที่พิมพ์วันนี้ก็เพราะเมือ่วานรู้สึกเสียความรู้สึกกับ UOB มากๆ ก็เลยอยากจะระบาย และเขียนปลอบใจตัวเองไปด้วย
ยังไงเป็นกำลังใจให้แมงเม่าทั้งหลายบินผ่านกองไฟไปด้วยกันครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา