เรื่องเล่าปลดหนี้

อยากเข้ามาแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ ทุกคนบ้าง เผื่่อจะเป็นประโยชน์เหมือนที่เราก็ได้ความรู้จากห้องนี้ ...ตอนนั้นเราได้เวบนี้่ช่วยชีวิตไว้ อยากจะช่วยคนอื่นต่อๆไป เป็นอานิสงส์เหมือนกันค่ะ...
ช่วงนี้ชีวิตย่ำแย่ ว่างงานอยู่ แต่เดือน กย. ที่ผ่านมา แฮร์คัทไปได้ 2 ใบ โล่งใจขึ้นมาก
เป็นหนี้ของไทยพาณิชย์ทั้ง 2 ใบ หยุดจ่าย มาได้ปี 4 เดือน
ใบแรกบัตรเครดิต หยุดจ่าย 6หมื่นกว่า ปัจจุบัน แปดหมื่นกว่า ปิดครั้งเดียวที่ ห้าหมื่นนิดๆ
ใบที่สองบัตรกดเงิน หยุด สี่หมื่น ปัจจุบัน ห้าหมื่นกว่า ปิดครั้งเดียวที่สามหมื่น

ที่ตัดสินใจปิดเพราะพอเตรียมเงินไว้พอ และได้ต่ำกว่ายอดที่หยุดจ่าย โดยที่เรายังพอมีเงินเหลือใช้ตอนว่างงาน ยังไม่มีรายได้
ตอนนีมีค้างอีกใบktc ยอดประมาณสองหมื่นกว่า หยุดมาปีกว่าแล้วเหมือนกัน เคยขอส่วนลดไป แต่ส่วนมากจะลดยาก ได้แต่ลดดอกเบี้ยแต่คงปล่อยไปก่อน อยากจะกันเงินสำรองไว้ใช้จ่ายด้วย มุ่งมั่นหารายได้ เก็บเงินแล้วค่อยว่ากัน

อยากให้กำลังใจทุกคนที่หยุดแล้ว รึกำลังจะหยุด ขออย่างเดียว มีสติ แยกแยะหนี้ของเรากับรายได้ ให้ชัดเจน ทางแก้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อ่านกระทู้ในนี้ให้มากๆ ก่อนหน้านี้นั่งอ่านทั้งวันทั้งคืน พอวันนี้ ปลดได้แล้ว 5 ใบจาก 6 ใบ รู้สึกภูมิใจในตัวเอง แต่ก็ต้องแลกกับหลายอย่าง ทั้งชีวิตสวยหรูที่หายไป เมื่อก่นอ อยากได้อะไรซื้อ กินเค้ก ครั้งละเป็นร้อย กินได้ ไม่เสียดาย แล้วสุดท้าย กลายเป็นดินพอกหางหมู เสื้อผ้า รองเท้าที่ซื้อมาในวันที่ลำบาก มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย สุดท้าย การเป็นหนี้ กลับดีซะอีกที่ทำให้เรามีสติรู้ค่าของเงิน

ช่วงที่แก้ปัญหาชุลมุน อาศัยการเข้าวัด สวดมนต์ นั่งสมาธิ ช่วยได้มากทีเดียว แต่ตัวเราต้องไม่หลอกตัวเองว่ามีหนี้สิน มีปัญหา หนักหนาขนาดไหน....ที่สำคัญเราต้องเชื่อมั่นว่าเราจะปลดหนี้ได้ และตั้งใจจะแก้ปัญหานี้อย่างจริงใจ ถ้าตัวเราไม่เชื่อ ก็คงไม่มีใครช่วยเราได้ ....การเป็นหนี้ไม่ได้ทำให้ใจเราทุกข์ แต่ใจที่อยากให้หนี้หมดเร็วๆ คือตัวการบั่นทอนกำลังใจของเราเองค่ะ

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 53-54 ก็จัดการปิดไป 3 ใบ มี city 2ใบ และ hsbc 1 ใบ ไว้ว่างๆ จะมาเล่าให้ฟังต่อค่ะ เคยโดนฟ้อง ไปครั้งนึง แต่ปิดจบไปแล้ว

รออ่านอยู่นะคะ

ยินดีด้วยนะครับ

ถ้าจะเป็นประโยชน์ต่อชนหมุ่มาก เล่าเรื่องที่ปิดทีละใบก็ได้ครับ เผื่อให้หลายๆคนได้ศึกษาครับ

ขอบคุณครับ

ดีใจด้วยนะค่ะ และขอขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดี ๆ ที่จะเป้นกำลังใจให้กับเพื่อน ๆ คนอื่น ๆที่ยังคงมีหนี้ค้างอยู่ จะได้มีกำลังใจในการเก็บเงินเพื่อ H/C ต่อไป ขอบคุณจากใจจริง และขอแสดงความยินดีด้วยกับอิสรภาพที่ได้หลุดพ้นจากพันธนาการแห่งหนี้ค่ะ โชคดีค่ะ

มาแล้วค่ะ มาเล่าต่อ ช่วงนี้ฝนตก ผู้ไร้รายได้อย่างเราขอทำตัวเป็นประโยชน์...
หนี้ทั้งหมด 6 ใบ เริ่มเกิด ตอนปี 52 และภายในปีเดียว สร้างหนี้ได้ถึง 6 ใบรวด เงินเดือน สองหมื่นนิดๆ หมุนจ่ายจนตาลาย พอกันที อยากจะหยุดซะที และมาค้นพบเวบนี้ เลยกลั้นใจ เอาล่ะ จะเกิดอะไรต้องเกิด ...เวลาสร้างหนี้ แป๊บเดียว แต่ตอนแก้ จนบัดนี้ยังใบจบสิ้น อดทนกันต่อไป ....สู้เค้าทาเคชิ
ขอสรุป3 ใบแรกที่ปิดไปก่อนปี 54 เป็น ยอดตามนี้ค่ะ

บัตรกดเงิน city cash
รายนี้เขี้ยวที่สุด ยอดหยุด ตค. 53 แปดหมื่นกว่า ยอดฟ้องเมย. 54 92000 ปิดงวดเดียว 62000
แบงค์ต่างชาติรายนี้ไม่เกิน 4-6 เดือนจะฟ้องแล้ว ใครที่จะปิดยอดต้องตั้งรับให้ดี

บัตร credit city card
ยอดหยุด ตค. 53 35000 ยอดพค. 54 สี่หมื่นนิดๆ ปิดงวดเดียว 19000

บัตร ฮ่องกง
ยอดหยุด ตค. 53 35000 ยอดพค. 54 สี่หมื่นนิดๆ ปิด 4 งวด งวดละ 7200 จบเมื่อเดือน พย.54

ขอแก้นิดนึง บัตรกดเงิน city cash ของเราแบ่งปิดสองงวดค่ะ ใบนี้เป็นใบแรก ที่ยอดสูงลิ่วที่สุด
พอตัดสินใจจะหยุดเดือน ตค.2010 โดนโทรกระหน่ำ ตามจิก 3-4 เดือนแรก โดนเช้าสายวันละ 2 ครั้ง มี ส่วนมากพวกนี้ จะชอบโทรมาให้สายตัด แล้วอ้างว่าโทรไม่ติด หาเรื่องโทรเข้าที่ทำงาน โชคดีว่าตอนที่กรอกข้อมูลเราให้เบอร์โต๊ะ ส่วนตัว ไม่ได้ให้เบอร์กลางของบริษัท เลยรอดตัวไป ...เวลาโทรมาก็พยายามรับสายทุกครั้ง และบอกเค้าตามตรงว่าให้โทรเข้ามือถือเราเท่านั้น ( พยายามย้ำมันเข้าไป ถ้าเมื่อไหร่ แกระรานชั้น จะได้เห็นดีกัน )
พอเดือนที่ 3 จะเริ่มหลอกล่อให้เราประนอมหนี้ ปรับโครงสร้าง...ไม่ค่ะ ไม่หลงกล ...เรายึดคติ ไม่มี ไม่หนี เก็บเงินไว้จ่าย รับสายไปเรื่อย

พอเดือน ที่ 3 ปลายๆ เอ๊ะทำไมเค้าหายไป เอาแล้วงานเข้า มีหมายศาลมาแปะหน้าบ้าน เขี้ยวสมชื่อ ไม่กี่เดือน ฟ้องแล้วเพราะยอดมันสูงด้วย แต่ไม่ได้ฟ้องรวมกับบัตรเครดิตอีกใบนะคะ แค่ใบนี้ใบเดียว
แต่ก่อนหน้านั้นก็มี เคยเสนอส่วนลดมา จากเก้าหมื่น เหลือ 7 หมื่นกว่า บ้าง หกหมื่นกว่าบ้าง แต่ยังไม่มีเงินค่ะ....
เจอหมายปุ๊บ ตอนแรกเหวอมาก เอาแล้ว ชีวิตจบสิ้น ทำไงดี เงินก็ยังเก็บไม่ได้มาก...สิ่งแรกต้องทำ ตั้งสติก่อนค่ะ ดูว่าเรามีเงินเท่าไหร่ ก็อ่านรายละเอียดไป อ่านกระทู้ด้วย แวะไปสวนลุม เจออาประพัฒน์ คุณอาไพโรจน์ และพี่ๆ ทั้งหลาย ก็ได้คำแนะนำที่ดีมากทีเดียว มีคนลำบากกว่าเราตั้งเยอะ.... ช่วงนั้นอ่านกระทู้ทั้งวันทั้งคืน อ่านจนจะจำได้
เราได้หมายมาก่อนวันนัดประมาณ เดือนกว่าเกือบ 2 เดือน ก็ยังพอมีเวลาเตรียมใจ ประกอบกับเงินที่เก็บก็พอสมควร เลยตัดสินใจว่าจะไปคุยดู ถ้าเลื่อนนัดได้ ก็จะเลื่อน เพราะ เราน่าจะเก็บเงินได้ทัน ถ้าตกลงกันได้ ....ถ้าไม่ได้ก็ค่อยสู้คดีอีกที...

พอถึงวันไปศาล ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ เข้าไปดูบอร์ด หารายชื่อเรา แล้วก็ไปที่ห้องจะเห็นเพื่อนร่วมชะตาหลายคนทีเดียว ทนายของเรามาดูแล 2-3 คนได้ มีของเรา แล้วก็คุณป้า อีกคน ....ของเราศาลท่านก็ไกล่เกลี่ยออกแนวอยากจะให้เราจ่ายตามที่แบงค์เสนอมา ( อันนี้บอกตามตรงขึ้นอยู่กับดวงแต่ละคนว่าจะไปเจอศาลแบบไหนด้วย ศาลจะไม่ได้มีหน้าที่มาต่อรองให้เรา ) บอกเราว่าเป็นหนี้ ก็ต้องจ่าย ในเมื่อเรารู้ข้อตกลงตั้งแต่ตอนสมัครแล้วว่าเค้าจะคิดดอกเท่าไหร่.. แล้วเราไปใช้เงินเค้าทำไม..(เป็นงั้นไป)

เราก็รับฟัง ไป คุยกับทนายเรื่องขอปิดยอด ไป ในระหว่างรอศาล ทนายเค้าบอกว่าเค้าไม่มีอำนาจตัดสินใจ เค้าได้แค่มาดูและคดี เค้าก็เลยต่อสายให้เราคุยกับเจ้าหน้าที่แบงค์โดยตรงเลย ถ้าจำไม่ผิดเค้าให้ยอดปิดได้แค่ หกหมื่นห้า แต่เรามีไม่พอ....
สุดท้ายเราก็เลยขอเลื่อนนัดศาลไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าขอเจรจากับทางแบงค์อีกที ...เลื่อนนัดศาลได้แค่ เดือนครึ่งเอง แต่ก็ยังดี ที่ยืดเวลาหาเงินไปได้อีก... ก่อนกลับเจ้าหน้าที่เค้าจะมีเอกสารเลื่อนนัด เราดูให้เรียบร้อยว่าไม่มีพลิกแพลง (อ่านกระทู้เก่ามีเยอะทีเดียว ) แล้วก็ อย่าลืม ขอเบอร์ทนายกับเจ้าหน้าที่แบงค์ที่โทรคุยไว้ด้วยค่ะ ....

พอกลับมา ขอเจรจากับเจ้าหน้าที่อีก โทรคุยกัน สุดท้าย เค้าให้ยอดปิด หกหมื่นสอง ....เราขอไปสองงวดได้..ก็เลยตัดสินใจปิดเลย ....แต่กว่าจะปิดได้ ยังมีเรื่องอีกนะ ....เจ้าหน้าที่ไม่ยอมส่งเอกสาร ที่ระบุว่าจบภาระหนี้ อ้างว่ามันเป็น ฟอร์แมต แก้ไข ไม่ได้ ...เราเลยบอกไปเลยคำขาด ถ้าไม่มีเอกสารอันนี้ชั้นก็ไม่จ่ายค่ะ ไปเจอกันที่ศาลรอบหน้า ....สุดท้าย เค้าก็ยอมส่งสำเนาปลดภาระหนี้มาได้ซะงั้น... พอเรียบร้อยแล้ว เราก็โทรไปที่ศาล ปรากฏว่ายังไม่ยอมถอนฟ้องเราอีก... บอกว่าจะถอนให้วันโน้นวันนี้ ( พวกนี้เค้าดูหลายคดีสงสัยหัวหมุน เค้าจะขี้เกียจมาศาลครั้งเดียวเพื่อคดีเดียว) สุดท้ายไม่ยอกถอน บอกว่าให้โทรคุยกับทนายเอง เราก็ตามจิกเลยค่ะ ทนายบอกว่าผมยังไม่มีเวลาไปหรอก จะไปถอนเอาวันที่นัดครั้งที่สองนะ ...
เราก็กลัวเดี๋ยวถ้าเกิดเราไม่ไปตามนัดแล้วเกิดเค้าไปแจ้งศาลว่าเราจ่ายไม่ครบ ก็ยุ่งเลยสิ ทั้งๆ ที่ชั้นจ่ายจบแล้ว ยังจะหาเรื่องให้เสียค่ารถไปอีก ก็เลยยื่นคำขอขาดอีก บอกว่า ถอนฟ้องให้ชั้นด้วย ไม่งั้นชั้นจะร้องเรียน....เค้าก็บอกว่าเชิญเลย ตามสบาย...(นั่น หาเรื่องไหมล่ะ) ดิชั้นก็จัดการเลยค่ะ ส่งเรื่องถึงแบงค์ชาติ สำเนาธนาคาร ...สุดท้าย พอได้รับจดหมายปุ๊บ ถอนทันทีค่ะ...เป็นไทไป หนึ่งใบ...

หลังจากใบนี้จบ ก็เริ่มมีกำลังใจขึ้น ไหนๆ ก็เคยโดนฟ้องแล้ว อย่ากลัว ถ้าใบอื่นมันจะฟ้องชั้น 555 ฝากถึงคนที่จะไปศาล หาข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนมาก หมายจะมาตามที่อยู่ทะเบียนบ้านที่ชื่อเราอยู่ แล้วก้อไปศาลที่เขตที่ขึ้นอยู่
ถ้าเราจะเลือกสู้คดี รึจะไปเจรจา รึเลื่อนนัด ขึ้นอยู่กับเราและเงินในกระเป๋าค่ะ ไปปรึกษาพี่ๆ ที่สวนลุมดูก็ดีค่ะ

ใบที่สอง ตามมาติดๆ CITY CREDIT CARD

ใบที่ที่สมัครเพราะเค้าบอกว่ามี cash back ...เป็นไงล่ะ cash back เงินกลับไปหาธนาคารหมดเลย 555

ใบนี้ ยอดไม่สูงมากเท่าไหร่ เลยยังไม่โดนฟ้อง แต่ตามสไตล์ แบงค์นี้ โทรจิกทุกวัน จนเดือนที่ 4-5 ก็เริ่มมีสำนักกฎหมายที่พอจะพูดรู้เรื่องมาคุยเรื่องปิดบัญชี ...ช่วงนั้นเราเพิ่งปิดใบแรกไป เงินก็ยังไม่เยอะมาก เค้าให้ปิด สองหมื่นกว่างวดเดียว เรายังไม่มี ขอเค้าแบบหน้าด้านๆ ว่าหมื่นเก้า งวดเดียว ...เค้าก็ลองไปเจรจาดู ผ่านไปสองอาทิตย์ปรากฏว่าได้ ก็เลยตัดใจปิดไป ใบนี้ได้ลดเยอะแล้วก็ ไม่ค่อยยุ่งยาก เจ้าหน้าที่ส่งเอกสารมาตามขั้นตอนก็เลยจบเร็ว

ตอนนั้นก็ลังเลว่าจะปิดรึจะเก็บเงินรอไปจ่าย ใบอื่นก่อนดี แต่ที่ตัดสินใจปิดเพราะ (เฉพาะกรณีเรา ไว้ประกอบการตัดสินใจ)
ซิตี้ มักจะฟ้องเร็วกว่า แบงค์อื่น อย่างฮ่องกงที่เราค้างอยู่ เจ้าหน้าที่ก็ทวง แต่เหมือนเพิ่งเจอสำนักกฎหมาย 1-2 เจ้าเท่านั้น (ตามปกติเรามักจะเจอ 3-4 บริษัทขึ้นไป จนกว่าจะฟ้อง สำนักกฎหมายก็จะแย่งกันตามจิกเราเพื่อจะได้ยอด) แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงกลางปีพอดี ส่วนลดเลยได้เยอะหน่อย...เหมือนแบงค์จะรีบเคลียร์หนี้เน่าทั้งหลาย ..เลยจัดการ ซิตี้ให้มันจบก่อนเพื่อน

เดี๋ยวมาต่อค่ะ

ใบที่สาม HongKong credit card

ใบนี้เป็นบัตรเครดิตใบแรกในชีวิตเลยทีเดียว ปิดได้เมื่อไหร่ ฮึ่ม ใบอื่นก็ต้องปิดได้...

ใบนี้ ยอดไล่ๆ กับ ซิตี้เครดิตการ์ด ใบก่อนหน้า แต่ส่วนลด จะลดยากกว่า ลดน้อยกว่า จากที่เราเจอนะ
แต่โทรมาจิกทวงมารยาทดีกว่าหน่อย อาจะมีเหน็บแนมบ้าง แต่ยังไม่เข้าขั้นเท่าไหร่ หยุดจ่าย ประมาณ 3-4 เดือนแรก ก็เหมือนๆ กันโทรทวงวันละครั้ง
แต่พอเดือนที่ 5-6 เริ่มเป็นสำนักกฎหมายโทรมา พวกนี้อาจจะจิกกัดมากกว่าหน่อย อย่าไปใส่ใจค่ะ ตราบใดที่มันยังไม่รังควานที่บ้านและที่ทำงาน ยังพอได้อยู่ สำนักงานกฎหมาย สองเจ้าแรกที่เจอ จะค่อนข้างกวนๆ หน่อย กล่อมให้ประนอมหนี้อย่างเดียวเลย

พอเข้าเดือนที่ 6 มีเจ้าหนึ่ง..อันนี้ พอใช้ได้ดูว่าจริงใจหน่อย น้ำเสียงเป็นมิตร โทรมาบอกว่า ถ้าปิดบัญชีจะลองคุยเรื่องส่วนลดให้ แต่อาจจะได้งวดเดียว ซึ่งเรามีไม่พอ อยากจะได้ซัก 3 งวด เค้าก็ไปคุยให้ ครั้งแรกไม่ได้ ครั้งที่สองก็ยังไม่ตกลง เห็นว่าได้สองหมื่นหกแต่ต้องปิดงวดเดียว เราเองยังไม่พร้อม สุดท้าย จบลงที่ 4 งวด งวดละเจ็ดพันสอง ก่อนปิดจะมีเอกสารให้เราแฟกซ์คืนไป แต่ดูแล้วไม่มีรายละเอียดตุกติก พอปิดจบก็มีเอกสารเรียบร้อย เป็นไทไปอีกหนึ่งใบ

ส่วนตัวเราว่า ฮ่องกงจะลดยากกว่า ซิตี้ แล้วก็จะไม่เกิน 25-30 เปอร์เซ็นต์ จริง อย่างของเรายอดไล่ๆ กัน แต่ ซิตี้ จ่ายน้อยกว่าตั้งเยอะ...อันนี้ดูความพร้อมและแบงค์ที่เราเจอด้วย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้เหมือนกัน แต่ละคนมากน้อย ไม่เท่ากัน
แล้วก็เวลาที่คุยกันอย่าไปบอกรึถามเรื่องส่วนลด เราบอกแค่ว่า ถ้าอยากปิดบัญชี มีเงื่อนไขยังไง อย่าพูดเรื่องส่วนลดค่ะ ถ้าเค้าจะลด เค้าจะแจ้งเราเอง ...สำคัญที่เงินเราต้องพร้อมก่อน ถ้ายังไม่พร้อม ก็อย่าไปถามเรื่องปิดบัญชีเช่นกัน

ในช่วง สามใบยังเคลียร์ไม่ได้นี้ สาหัสสากรรจ์พอตัวค่ะ เคยแบบ ไม่เหลือเงินเลย มีแค่ ไม่กี่ร้อยทั้งเดือน แทบจะกินมาม่าทั้งเดือน ไม่ได้ออกไปไหนเลย เพื่อนฝูงนัด เราก็ไม่กล้าไป เพราะไม่มีเงิน รู้เลยว่าคนที่เค้าไม่มีเงินจริงๆรู้สึกยังไง เมื่อก่อน เราไม่เคยคิดเลยว่า ชีวิตจะต้องมาเป็นหนี้ โดนฟ้อง สุดท้ายอะไรจะเกิดก็เกิด เป็นผลของการกระทำของเราเอง เครดิตหมดได้ เครดิตเราก็สร้างใหม่ได้ ...แต่ต้องไม่ท้อ และไม่ยึดติดกับหนี้ และกับชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อ ...กินข้าวนอกบ้านน้อยลง เลิกขับรถ ขึ้นรถเมล์ อยู๋อย่างสมถะ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปค่ะ แนะนำให้อ่านหนังสือของชมรม และของคุณ โจ มณฑานี เรื่องเงิน ได้ความรู้มากทีเดียว

ไว้มาต่อ อีกสามใบนะจ๊ะ

ขอบคุณ สำหรับข้อมูลดีดี ค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆนะค่ะ ติดตามค่ะ ว่าแต่ละใบปิดได้ยังไงบ้าง

ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ เตรียมตัวไปศาลวันที่ 16 ค่ะ เอกสารพร้อม สุขภาพพร้อม....ใจพร้อมค่า
ถ้ามีปัญหาจะยิ้มสู้ และใช้สติที่ตั้งเตรียมไว้แก้ไขปัญหาให้นิ่งที่สุด .....เหมือนที่คุณอาไพโรจน์สอน
"นิ่งสงบ สยบทุกความเคลื่อนไหว" ค่ะ

สู้ๆ โชคดีค่ะคุน kiboom ตั้งสติดีๆ

มาแล้วค่ะ หลังจากอัพเดตไปแล้ว 3 ใบ มาต่อ อีกสองใบที่ค้างอยู่จ๊ะ

2 ใบเป็นของ ไทยพาณิชย์ บัตรกดเงิน และบัตรเครดิตอีกใบ ...ตอนสมัคร แทบจะกราบแทบเท้าเราไม่ต้องใช้เอกสารอะไรเล้ยจริงๆ หารู้ไม่ นำพาปัญหามาสู่ชีวิตเราแท้ๆ

ใบแรก บัตรกดเงิน หยุดปีที่แล้วเดือน มิย. ยอดกว่าสี่หมื่น หยุดมาปีกว่า ยอดกลายเป็นห้าหมื่นกว่า มีโทรมาทวงช่วงแรกๆ 3-4 เดือนถี่หน่อย แล้วก็ เปลี่ยนเป็นกฎหมายโทร ทุกเดือนตามปกติ ก็รับสายไป เค้าก็จะให้ประนอม แต่ไม่ค่ะ ขอบคุณ ไม่มีเงินด้วย จนสุดท้าย ต้นๆ ปี เริ่มเสนอส่วนลดมา แต่ลดได้นิดหน่อย เราเองก็ยังไม่มีเงินพอ จน2เดือนก่อนมีข้อเสนอปิดงวดเดียว สามหมื่นกว่า เราก็ยังมีเงินไม่พอจริงๆ ปล่อยไป รอเวลา จนมีเจ้าหน้าที่อีกท่านโทรมาช่วยคุยให้ ปิดที่ สามหมื่นนิดๆ งวดเดียวจบ เลยตัดสินใจปิดไป ไปชำระที่ธนาคารรอเค้าแฟกซ์เอกสารมาให้เลย ตอนนี้ก็ได้จดหมายปิดหนี้เรียบร้อย

ส่วนอีกใบบัตรเครดิต หยุดจ่าย ยอดประมาณ 6 หมื่นกว่า ปีที่แล้วช่วง เดือน มิย. ก็เจอการโทรทวงปกติ เหมือนทุกที่ ช่วงปลายปีที่แล้ว บอกว่ามีส่วนลดให้ แต่เรายังไม่พร้อม พอเข้าเดือนที่ 4-5 มีการส่งคนมาที่บ้าน และโทรจิก ที่บ้าน ...จัดการค่ะ ร้องเรียนเลย ...จบเรื่องไป หายไปหลายเดือน เริ่มอีกแระ โทรเข้าบ้านอ้างว่าโทรไม่ติด ทั้งๆ ไม่มีเบอร์โชว์ซะหน่อย...โทรไปเตือนก็เลยดีขึ้น...ใบนี้ยอดค่อนข้างสูง กลัวจะโดนฟ้องเหมือนกัน แต่ก็รับสาย ทุกเดือน รอต่อไปเรื่อยๆ ช่วงนั้นก็เก็บเงินไปพลางๆ พอช่วงกลางๆ ปี เดือน มิ.ย เจ้าหน้าที่เค้าก็แจ้งมาว่ามีข้อเสนอปิดบัญชี อยู่ที่เกือบ หกหมื่นได้มั๊ง แต่ตอนนั้นยอดเราเกือบแปดหมื่นแล้ว แล้วก็มีเงินไม่พอด้วยก็เลยลองขอเค้าเป็น ห้าหมื่นกว่าแบงค์ยังไม่อนุมัติ ระหว่างนั้น ก็มีโทรมา อาทิตย์ละครั้งได้ จนท้ายที่สุด ซึ่งนับว่าเป็นความโชคดีเล็กน้อยที่บริษัทที่เราปิดบัตรกดเงิน เค้าลองคุยกับทางแบงค์ให้ด้วย จนได้ปิดยอดที่ ห้าหมื่นนิดๆ งวดเดียว ก็กลั้นใจปิดนับว่าจบเรื่องไป

ถ้าคนที่รอแฮร์คัทเราว่าก็ยังมีเงื่อนไขปิดยอดใช้ได้อยู่นะ อาจจะไม่ได้สูงเท่าแบงค์ต่างชาติแต่จะฟ้องช้ากว่าทำให้เรามีเวลาเตรียมเงินได้ทัน นี่ก็เข้าใกล้ปลายปีแล้ว น่าจะมีเงื่อนไขปิดยอดน่าสนใจลองเจรจาดูค่ะ สำหรับคนที่พอเก็บเงินได้แล้ว ...ไม่อยากให้คิดว่า ชั้นมีเงินชั้นจะรอส่วนลดเท่านั้น เท่านี้ ..หนี้ของเราสร้าง เราก็ใช้คืนไปเถอะค่ะ ถ้าเรามีเงินพอ

ตอนนี้ก็เหลือกรุงไทยนี่ล่ะ ใครที่ปิดยอดได้แล้วช่วยบอกด้วยนะ อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างค่ะ

ช่วงนี้กินเจ อิ่มบุญกันถ้วนหน้า

กรุงไทยลดน้อยครับ
ทวงห่าง แต่ไม่ลด

นานๆ พอลูกหนี้เยอะๆ เขาจะจัดมหกรรมไกล่เกลี่ย ตอนผมปิดก้ไปขึ้นศาลนัดไกล่เกลี่ยก่อน

ยอดวิ่งไป 170,000 ปิดที่ 150,000 ผ่อน 12 เดือน ไม่มีดอกเบี้ยครับ

ตอนนั้นก็มีออฟชั่น 36 เดือน ดอก 7.5%

เลยเลือกเอาอันแรก เพราะว่าพอไหว

ไปสู้ที่ศาล ก็ไม่แน่ใจอารมณ์ผู้พิพากษาท่านเหมือนกัน


เลยปิดไปแบบนั้นครับ แล้วแต่กรณีนะครับ