หลังจากหยุดหนี้มาประมาณ 1 ปีเศษๆ ตอนนี้กำลังจะหมดหนี้ละนะครับ

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57345 โดย art2527
ก่อนอื่นขอรายงานสภาพหนี้ของตัวเองก่อนที่จะเริ่มหยุดจ่ายนะครับ

Citi advance (สินเชื่อบุคคล) ยอด 120,000 ผ่อนขั้นต่ำ 3,684
TMB สินเชื่อบุคคล ยอด 80,000 ผ่อน 2,400
CIMB (สินเชื่อบุคคล)ยอด 45,000 ผ่อน 1,670
First Choice ยอด 36,000 ผ่อน 2,500
Aeon ยอด 70,000 ผ่อนรวมทุกสินค้า 4,800
KTC ยอด 42,000 (บัตรเครดิต)

จะเข้ามาเล่าว่าแต่ละเจ้าผมต้องเจอกับตามติดตามทวงถามอย่างไร และจบลงแบบไหน เอาแบบชีวิตจริงๆ ที่ได้ผ่านมานะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57360 โดย powergurn1

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57383 โดย qquuy
เข้ามาเล่าเร็วๆ น่ะค่ะรออ่านอยู่ค่ะ จะได้เตรียมตัวถูก

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57395 โดย Alohayabu12

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57414 โดย Begita
สมาชิกใหม่ขอมาติดตามด้วยคนครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #57425 โดย Eagle KY CNX
พระเอก ...... เล่นตัวยาวไปมั้ยยยยยย

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา - 9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58273 โดย art2527
ขออภัยที่เข้ามาตอบล่าช้านะครับ เอาเป็นว่าสิ่งที่ในเว็บบอก สิ่งที่เจอในชีวิตจริง ผมไม่ได้เป็นคนโลกสวย ขอใช้คำพูดแบบตรงไปตรงมานะครับ

ก่อนอื่นๆ มีใครเลยใช้แนวทางของชมรมแล้วทำไม่ได้ไหม เช่น หยุดจ่าย แต่แทนที่จะเอาเงินที่หยุดจ่ายเก็บ สุดท้ายก็เอาไปใช้หมด ตอบเลย ผมเป็นหนึ่งในนั้น แล้วมีใครไหมหยุดจ่าย แต่พอโดนเจ้าหนี้ทวงหนักๆ ก็กลัวสุดท้่ายก็ยอมจ่ายขั้นต่ำ หรือมีใครไหมที่อายที่จะบอกคนรอบข้างว่าตัวเองเป็นหนี้เยอะ

ที่ถามไม่ใช่อะไรนะครับ แต่มันคืิอสิ่งที่ผมเจอหลังจากหยุดจ่าย แล้วดำเนินตามวิธีการของชมรมนี้ เข้าเรื่องเลยนะครับ ตอนผมเป็นหนี้ ผมเริ่มเป็นมากๆ ตอนนั้นเงินเดือนต่อเดือนผมอยู่ที่เดือนละ 21500 โดยประมาณ (จำที่ชัวๆ ไม่ได้) มาดูภาระผมตอนนี้นะครับ

1. ผ่อนบ้าน 4400
2. ผ่อนรถ 5,682
3. ปกศ. 750
4. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 700
5. ค่ำน้ำไฟ ส่วนกลางตกเฉลี่ยเดือนละ 2,000
รวมรายจ่ายที่ต้องจ่ายประจำในแต่ละเดือน 13,532 (เงินเืดือน - รายจ่าย จะเหลือรับอยู่ที่เดือนละ 7,968 บาท) เห็นไหมครับ ผมยังไม่ได้ลบค่ากินใช้รายวัน แต่เงินเดือนหลังจากหักค่าใช้จ่ายประจำอยู่ที่ 7,968 นี้คือที่มาที่ไปของมูลนี้มหาศาลที่ผมเคยเป็น 3xx,xxx ครับ เห็นไหมครับว่าเงินเดือนที่เหลือกับยอดหนี้ 3 แสนกว่าบาทเป็นไปไม่ได้เลยที่เงินขนาดนี้จะสามารถจ่ายสินเชื่อแต่ละตัวไหว ถามว่าเป็นหนี้เพราะอะไร ตอบเลยว่าใช้ของเกินตัว ผมไม่กินเหล้า ไม่เที่ยว แต่ที่เป็นเยอะขนาดนี้เพราะใช้แต่ของดีๆ ผมเล่นกล้องถ่ายรูป อุปกรณ์แต่ละตัวของผมรวมๆ กันเกิบ 2 แสน ถามว่าเอาเงินจากไหนมาซ์้อ ก็กู้มาไงครับ

เล่ามาซะยาว เริ่มเลยละ ก่อนหยุดผมเองก็นั่งเปิดเว็บไปเรื่อยๆ มาเจอเว็บนี้เข้าก็อ่าน ทำความเข้าใจอยู่สักสัปดาห์ ก็เริ่มหยุด แรกๆ ก็หวั่นๆ นะครับ แต่ผมรีบชิงบอกคนที่ทำงาน และที่บ้านให้ทราบเรื่องราวของผม ถามว่าคนที่ทำงานเขาดูถูกเราไหม ต่อหน้าเขาก็คงไม่แสดงอะไรให้เห็น แต่ในใจเขาคงคิดว่ากูว่าแล้ว เห็นมึงใช้แต่ของดี ๆ ที่ไหนได้กู้เข้ามาทั้งนั้น 555

ช่วงแรกของการหยุด 1-4 เดือน แรก โทรศัพท์จากเจ้าหนี้แต่ละเจ้ากระหน่ำ มากๆ ผมเองก็รับทุึกสาย มีบางเจ้าเล่นโทรมาเหมือนยิงมา พอเรารับไม่ทันมันก็โทรเข้าที่ทำงาน ผมก็ถามว่าทำไม่ไม่ติดต่อทางมือถือ มันก็อ้างว่าโทรไปแล้วเราไม่ยอดรับสาย (พ่องมึงสิ กูนะรับทุกสายแต่มึงยิงมาแบบนี้กูรับไม่ทันโว้ย)

ในระหว่างการเริ่มหยุดจ่าย ผมเองมีโอกาศได้เปลี่ยนงานที่ใหม่ ได้ปรับฐานเงินเดือนมาเป็นเดือนละ 30000 บาท (จากเดิมแค่ 21500 แต่แลกกับการเดินทางไปทำงานที่ไกลขึ้นมาก) และหลังจากที่ลาออกผมมีโอกาศได้เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากบริษัทฯเดิม เงินราวๆ 8 หมื่นกว่าบาท ลองทายสิผมได้เงินมาแล้วผมเอาไปทำอะไร คำตอบคือเอาไปซื้อมอไซต์ ครับท่านอ่านไม่ผิด ผมเอาเงินที่ได้มาไปซื้อรถมอไซต์แทนที่จะเอาไปใช้หนี้ 5555

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58274 โดย art2527
ต่อนะครับ อันนี้จะขอเล่าว่าแต่ละรายมีพฤติกรรมอย่างไรในการทวงหนี้ โดยเริ่มจาก

1. City Advance เจ้านี้ โทรบ่อยมาก ขมขู่สารพัด ระยำ ต่ำที่สุด หยุดจ่ายสองเดือน (มั้ง) ส่งคนไปหาที่บ้านเลย เป็นผู้ชายมากันสองคน แม่ผมรับเรื่องไว้ มันไปคุยกับคนข้างบ้านด้วยว่าลูกชายบ้านนี้เบี้ยวหนี้ กู้เงินเขามาแล้วไม่ยอมจ่าย ผมรู้จากแม่ แม่โทรมาเล่าให้ฟังว่ามีคนมาหาจาก city advance แล้วเล่าให้ฟังว่ามันทำอย่างไรเอาไว้ ผมไม่ยอม รีบเข้าไปที่สาขาที่ผมไปขอกู้เงินมา (สาขาตรงแยกเสนานิคม) ไปร้องเรียนกับผู้จัดการสาขา แล้วส่งเรื่องร้องเรียนไปที่แบงค์ชาติ (จากเว็บที่รับเรื่องร้องเรียน)

2. Aeon (่ผ่อนของ) เจ้าหนี้ก็ระยำไม่แพ้กัน โทรบ่อยมาก บ่อยจนน่ารำคาญ แต่หลังจาก 4 เดือนไปก็ไม่ค่อยโทรมาละ นานๆ จะมาสักสาย โทรไม่เว้นวันหยุด ไม่ยอมว่าสายง่ายๆ เคยคุยกันมันนานสุดเกิบชั่วโมง (คุยไปได้ยังไง)

3. KTC (บัตรเครดิต เจ้านี้โทรน้อย คุยไม่เยอะ รีบคุยรีบวาง สุภาพ มาออกแนวมาชวนปรับโครงสร้างหนี้ (ช่วงแรก) หลังจากสี่เดือนก็เงียบไป เฉลี่ยหลังจาก 4 เดือนแรกก็มีโทรมาบ้างประมาณเดือนละครั้ง หรือสองเดือนครั้ง

4. CIMB (สินเชื่อ) เจ้านี้แทบจะไม่โทรมาเลย ไม่ว่าจะเป็นช่วงแรก หรือหลังจาก 4 เดือนมันก็แทบจะไม่โทรมาหา เน้นส่งแต่จะหมายอย่างเดี่ยว

5. TMB (สินเชื่อ) เจ้านี้ก็โทรมาบ่อยช่วงแรก (แต่ยังไม่หนักเท่า aeon + city advance) หลังจาก 4 เดือนก็โทรมาน้อยมาก คุยง่ายไม่เคยขู่ (มาอีกทีหมายศา่ลเลยจ้า อิอิ)

6. First Choice (่ผ่อนของ) โทรบ่อยพอสมควร คุยไม่ยาก

ทุกแบงค์ที่โทรมาผมบอกก่อนนะว่าผมคุยดีัทุกสาย บอกเขาไปเลยว่าเรายังไม่พร้อมจ่าย หากมีแล้วจะรีบจ่ายให้ แค่นี้เองครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58275 โดย art2527
มาเริ่มกระบวนการจ่ายของแต่ละแบงค์ละกันครับ ก่อนอื่นจำได้ไหมว่าผมเคยบอกว่าผมลาออกและได้งานใหม่ ได้เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากบริษัืทฯ เดิมมาแต่เอาเงินทั้งหมดไปซื้อมอไซต์ ด้วยเหตุผลที่เข้าข้างตัวเองว่าต้องใช้ขี่ไปทำงาน (ทั้งๆ ที่เดิมที่มีรถมอไซต์นะเป็น wave ธรรมดาๆ แต่ที่ซื้อใหม่เป็นคาวาซากินินจากมาขี่ครับ เท่ไหมละพี่น้อง) หลังจากหยุดจ่ายมากตั้งแต่ช่วงปลายปี 55 จนได้เปลี่ยนไปเริ่มงานที่ใหม่ในช่วงเดือน เม.ย.56 ถามว่ามีเงินเก็บไหมจากที่หยุดจ่าย บอกเลยว่าไม่มี เพราะเอาเงินที่ไม่ได้จ่ายบัตรเครดิตไปใช้ในชีวิตประจำวัน แหมๆๆ ก็เหลือเงินสุทธิอยู่ที่ 7 พันกว่าบาทจะเอาที่ไหนมาเก็บฟ่ะ (จริงไหมครัช)

หยุดจ่ายมาได้ราวๆ 4 เดือน city advance ส่งคนไปที่บ้าน ผมส่งเรื่องร้องเรียนไปที่สาขา และแบงค์ชาติ หลังจากร้องเรียนไปได้สัก 1 สัปดาห์ city โทรมาเลยครับว่าจะเสนอให้ปิดยอดที่มีอยู่ที่จำนวนเงิน 55,000 ผ่อนเป็น 3 งวด งวดแรก 4,000 งวดสอง 23,500 งวดสุดท้าย 27,500 (ส่งเป็นหนังสือสัญญามาให้ แต่ก่อนได้หนังสือสัญญาให้ผ่อนชำระเพื่อปิดหนี้ ก็มี จนท.ของเขาโทรมาเจรจาและตกลงกันที่ยอดหนี้) เอาละสิจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย เงินเก็บก็ไม่มี เงินก้อนที่ได้มาก็เอาไปซื้อรถหมดแล้ว คิดๆๆๆ ทำไงๆ สรุปผมยอมที่จะขายทรัพย์สินที่มีอยู่ คือ กล้องถ่ายรูปพร้อม len ที่มี (บางส่วน) เพื่อเอาเงินที่ได้มาไปจ่ายครับ *** สังเกตุนะครับผมขา่ยทรัพย์สินเอาไปจ่ายหนี้ ไม่ได้ใช้เงินเก็บเพราะมันไม่มีเก็บ ผมถือคติที่ว่าทรัพย์สินมันของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้แค่นั้นครับ

สรุปคือ city advance ยอดหนี้ผม 120,000 ผมสามารถปิดบัญชีได้ที่ยอด 55,000 โดยเงินที่ได้มาปิดบัญชีเป็นเงินที่ต้องแลกมาด้วยการขายทรัพย์สินของผมเอง ครับจบไปหนึ่งละ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา - 9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58277 โดย art2527
ใบที่สองที่ปิดได้คือ first choice หยุดจ่ายได้ราวๆ สัก 6 เดือน ยอดหนี้ 36,000 เสนอมาปิดบัญชีที่ 22,000 จ่ายงวดเดี่ยว ถามผมละสิว่าเอาเงินจากไหนมา เพราะเพิ่งปิด city advance ไปหมาดๆ 2 เดือนที่ผ่านมาเอง ตอบให้ครับผมขอยืมจากที่บ้าน แล้่วผมผ่อนให้ที่้บ้านแทนโดยรับปากว่าจะจ่ายให้เดือนละ 5,000 บาทให้ 4 เดือน (นับจากปิด first choice ไป ก็ต้องมาผ่อนให้ที่บ้านแทน ถามว่าลำบากไหมบอกได้เลยว่าลำบากมาก เพราะต้องประหยัดเงินที่ต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวันไป บางวันยิ่งช่วงปลายเดือนนะ ไม่ต้องพูดเลย บางวันไม่มีเงินกินข้าวด้วยซ้ำ เรียกว่าขับรถหล่อ มีแต่เงินเติมน้ำมัน ไม่มีเงินกินข้าว (คิดว่าหลายๆ คนคงเคยมีอารมณ์นี้นะ) เรียกว่าเงินที่ใช้ค่อนข้างฟิกมาก ไม่สามารถมีรายจ่ายอะไรมาเพิ่มเติมได้เลย เคยนะครับ รถยางแบนระหว่างทาง ไม่มีเงินเข้าร้านปะยางต้องเข็นรถกลับที่บ้าน (ไกลมาก) หรือบางครั้งขับแบบวัดดวง ไฟเตือนน้ำมันขึ้นตลอดทาง ภาวนาในใจว่าอย่าหมดนะ เอาให้ถึงบ้านก่อนวันพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน *** สังเกตุนะครับ เงินที่ีผมปิดก็ไม่ได้มาจากเิงินเก็บเป็นเงินยืมที่้บ้านแล้วผ่อนจ่ายที่บ้านแทน จบไปอีกใบพร้อมสัญญาณแห่งความลำบาก

ลืมมาชี้แจงรายจ่ายจากการเปลี่ยนงานที่ใหม่ก่อนนะครับ

1. ผ่อนบ้าน 4400
2. ผ่อนรถ 5,682
3. ปกศ. 750
4. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 900
5. ค่ำน้ำไฟ ส่วนกลางตกเฉลี่ยเดือนละ 2,000
6. ค่าน้ำมันมอไซต์ (ต้องกันไว้เพราะเดินทางไปไกลกว่าที่ทำงานเดิม) 3,000/เดือน
7. อาหารแมว ทรายแมว 1,500 (ดันไปหาภาระมาเพิ่มให้ตัวเองซะงั้น)
รายได้ 30,000 - 18,232 (ค่าใช้จ่ายฟิกต่อเดือน) คงเหลือสุทธิต่อเดือนที่ 11,768 (ไม่ได้ลบค่ากินใช้รายวัน)

ดูเหมือนจะดีนะครับ แต่อย่าลืมว่าผมต้องผ่้อนให้กับที่บ้านที่ยืิมมาอีกเดือนละ 5,000 ต้องผ่า่นให้ 4 เดือนเต็มๆ สรุปในช่วงที่ผมผ่อนเงินให้กับที่บ้านผมจะเหลือเงินรับต่อเดือนอยู่แค่ 6,768 ครับ ถามว่าเหลือแค่นี้มีเก็บไหม บอกเลยว่าแค่ใช้ให้ชนเดือนยังแทบจะไม่พอ จะเอาที่ไหนไปเก็บครับพี่น้อง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58278 โดย art2527
ผ่านปี 56 ที่เริ่มจ่ายปิดบัญชีไป 2 แบงค์หมดกล้องกับ len ไป 1 ชุด กินอดๆ ยากๆ ไปเกิบสิ้นปี (ผมย้ายงานช่วงเดือน เม.ย 56) ในระหว่างปี 56 แบงค์ที่หยุดๆจ่ายไปก็โทรมาทวงบ้างผมก็บอกไปเลยว่าตอนนี้ปิดให้แบงค์ไหนอยู่ ตอนนี้ยังไม่พร้อมสำหรับแบงค์อื่นๆครับ

ผ่านมาถึงต้นปี 57 โบนัสที่บริษัทฯใหม่บอกเลยว่าดีมากๆ ผมทำงานไม่เต็มปีได้เงินโบนัสมาเกิบแสน 555 มาอีกแล้วเงินก้อนใหญ่ ถามว่าเก็บเอาไว้จ่ายหนี้ไม่ เหมือนเดิมครับผมเอาเงินโบนัสไปใช้ซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยเหมือนเดิม ให้แฟน ให้ที่้บ้าน ซื้อของบำเรอความสุขให้ตัวเองหลังจากอยู่อดๆ ยากๆ มากเกิบปี สุดท้ายเงินโบนัสที่ได้มาก็หมดลงอย่างรวดเร็ว อะเหื้อ !!!

และแล้วความซวยก็มาเยือน เมื่อเดือน มี.ค. 57 KTC โทรมาขู่จะส่งฟ้อง หากต้องการปิดเพื่อไม่ส่งฟ้อง เขาก็เสนอแนวทางผมให้เราชำระยอดหนี้เป็นเงิน 40,000 จ่ายงวดเดี่ยว (นึกถึงโบนัสที่ได้มาหากเก็บไว้คงไม่เดือนร้อนแล้วนะเรา) หากไม่มีเงินก้อนก็ให้ผ่อนต่อเดือนๆ ละ 7,700 จำนวน 6 งวด ผมก็ตอบตกลงไปครับ เพราะไม่อยากไปศาล เนื่องจากรู้จากหลายๆ คนว่าหากไปส่วนมากส่วนลดจะน้อยมาก คือของ KTC แทบจะไม่ลดอะไรให้เลยนั้นแหละ ก็เลยเห็นว่าการไปศาลไปได้ช่วยอะไร จ่ายไปตามที่เขาเสนอมาดีกว่า ไม่เสียเวลาต้องลางานด้วย

มาย้ำเตือนกันนะครับ เงินเดือนสุทธิอยู่ที่ 11,768 (หลังจากไม่ต้องผ่อนให้ที่้บ้านแล้ว เนื่องจากผ่อนให้หมดไปแล้ว) เอาเงินที่เหลือ มาลบกับเงินที่ต้องจ่ายให้ KTC จะเหลือเงินสุทธิต่อเดือนอยู่แค่ 4,068 พระเจ้าเหลือน้อยกว่าสมัยที่ผ่อนให้ที่บ้านซะอีก ตายๆ จะเก็บเงินเพื่อ H/C ยังไงละเนี้ย แ่ค่กินก็ไม่พอแล้วแน่ๆ แต่ผมก็สามารถผ่านช่วงลำบากอีกช่วงมาได้ด้วยความทุลักทุเลพอสมควร (เริ่มจ่ายงวดแรกเดือน มี.ค. 57 - ส.ค.57)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58280 โดย art2527
เคาะห์ซ้ำกำซัด ระหว่างทำเรื่องปิดบัญชีของ KTC ไปหมาดๆ ยังไม่ได้ผ่อนเลยซักงวด TMB ก็มาครับมาเป็นหมายศาลเลยจ้า (โทรน้อย พูดไม่ยาก แต่มาได้โหดแท้) ถาว่าตื่นเต้นไปก็นิดหน่อย แต่หลังจากได้หมายมาแล้วก็มาอ่านรายละเอียดที่เขาฟ้องมา ยอดฟ้อง อัตราดอกเีบี้ยที่คิดกับเรา ในหมายที่มาแปะหน้าบ้านมันมีบอกไว้หมดเลยครับว่า มีทั้งสำเนาใบสมัคร อัตราดอกเบี้ยที่คิด สรุปข้อมูลที่เราเคยจ่ายไป เรียกว่ามีข้อมูลที่เราได้เคยทำไปทั้งหมดรวมอยู่ในนั้นหมดแล้ว (คิดในใจว่ามันเอาที่ไหนเก็บเอกสารพวกนี้ไว้ว่ะ ใบสมัครโน้นนี่นั้น มันเก็บมาถ่ายเอกสารให้เราดูหมด) อ่านไปอ่านมาก็มาสะดุดข้อมูลในใบสมัครที่เราเขียนไว้ตอนขอสินเชื่อตรงที่ "พิเศษอัตราดอกเบี้ยในปีแรก 10%" พอเห็นปุ๊บก็เอาวะ เอาตรงนี้ไปสู้กันที่ศาลละกัน เพราะข้อมูลในหมายฟ้องมันพิมพมาว่าคิดอัตราดอกเีบี้ยกับเราที่อัตรา 26% ตั้งแต่ปีแรกนิหว่า

หลังจากนั้นเอาเลยครับนั่งพิมพ์คำให้การเองเลย (เพิ่งมารู้ทีหลังว่าหากจะพิมพ์คำให้การต้องให้ทนายเป็นคนพิพม์และต้องมีทนายในการขึ้นสู้คดี 555 โง่เองครับคิดว่าอ่านข้อมูลในชมรมว่าดีแล้วนะ แต่ก็พลาดจนได้) รอจนถึงวันที่ต้องไปศาล (หมายมาติดช่วงเดือน มี.ค. 57 ให้ไปศาลช่วงปลายเดือน พ.ค.57)

วันที่ต้องไปศาลก็มาถึง ผมเองก็ไปเช็คชื่อว่ามีชื่อตัวเองไหม มีแล้วอยู่ที่ห้องพิจารณาคดีไหน บัลลังค์ไหน ได้ข้อมูลมาแล้วก็ไปนั่งรถในห้องพิจารณาคดี ระหว่างที่นั่งรอก็มีทั้งทนายความของแบงค์แต่ละเจ้าทยอยทมาก รวมถึงจำเลยก็ค่อยๆ ทยอยมาเหมือนกัน ทนายโจทย์ก็มีการเีรียกชื่อจำเลยของตนเองให้เข้าไปหา พร้อมพูดจา (ส่วนมากไม่ค่อยดี เน้นมาแนวขู่ซะมากกว่า) เชื่อไหมครับทั้งห้องวันนั้นประมาณ 10 คน(เห็นจะได้) มีผมคนเดี่ยวที่ยืนยันจะสู้คดี ส่วนมากพอเจอทนายโจทย์ขู่เข้าไปก็ทำยอมความกันหมดเลย ศาลท่านก็พิพากษาไปตามนั้น

เวลาพิจารณาคดี ศาลท่านจะเรียกตามรายชื่อ (ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านเรียงจากอะไร) เวลาท่านเรียกท่านก็อ่านคำฟ้อง และประมาณว่าพิพากษาไปตามหนังสือยอมความ บลาๆๆๆ พอมาถึงคิวผม ศาลเรียกเชื่อ ถามว่าได้ตกลงคดีนี้กันว่้ายังไง ผมก็บอกว่าขอสู้ในเรื่องอัตราดอกเบี้ย ท่านหันมาถามว่าหากจะสู้แล้วมีคำให้การมาไหม ผมบอกว่ามีครับ ท่านก็ขอดู (แต่ท่านก็บอกว่ามาหากจะสู้ต้องไปพิมพ์คำให้การมาใหม่ และต้องตั้งทนายความขึ้นให้การแทน) แต่ท่านก็ดูคำให้การผมนะ แล้วท่านก็หันไปถามทนายโจทย์ว่ารู้ไหม ทำไมธนาคารคิดดอกเบี้ยกับจำเลยแบบนี้ (ท่านเห็นตรงที่ผมเคยบอกไว้คือ "อัตราดอกเบี้ยปีแรก 10%" ท่านถามทนายโจทย์ว่าทำไม่ถึงคิดดอกเบี้ยเขาไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในเอกสารสมัครสินเชื่อ) ทนายโจทย์อึกอักแล้วบอกกับศาลว่าขอไปดูเอกสารใหม่อีกครั้งและขอเลื่อนการพิจารณาคดีออกไป ศาลท่านก็รับให้เลื่อนพิจารณาคดี และท่านก็หันมาบอกผมว่าหากเคลี่ยกันได้ก่อนวันนัดพิจารณาดคีก็ลองคุยกับทางทนายโจทย์ดูนะ (ศาลใจดีมาก แถมสวยอีกด้วยสิ อิอิ)

พอเสร็จพิธีการในห้องพิจารณาดคี ทนายโจทย์ก็เข้ามาุคุยกันผม (มันคงคิดว่าไอ้นี้คงไม่ง่ายเหมือนจำเลยคนอื่นๆ ละ) เนื้อหาที่คุยก็ประมาณว่าเดี่ยวผมลองกลับไปคุยกันแบงค์ก่อนละกันว่าพอจะช่วยเหลืออะไรพี่ได้บ้าง ผมก็คุยกันเขาดีนะ จบกันด้วยดีในวันนั้น

หลังจากไปขึ้นศาลได้สัปดาห์เศษ เห็นจะได้ทางแบงค์ก็โทรมาให้ปิดบัญชีที่ยอด 60,000 (จากยอดฟ้องที่ฟ้องที่ 9x,xxx) ผมก็เอาละสิจะเอาเงินจากไหมมาจ่ายว่ะ ขนาดเงินกินแต่ละเดือนยังแทบจะไม่พอแล้วกูจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายมึงตั้ง 6 หมื่น

กลับไปนั่งคิดนอนคิด รับปากไปแล้วด้วยสิ (เพราะไม่อยากไปศาลรอบสอง เพราะต้องเสียเงินค่าทนายในการพิมพ์คำให้การบวกกับค่าทนายไปศาล) จะจ่ายยังไงละหว่า โทรไปถามพ่อพ่อก็บอกไม่มีให้ยืิมหลอกเงินเยอะขนาดนี้ ผมก็เลยหันกลับมามองตัวเองว่าอะไรตอนนี้ที่พอจะเปลี่ยนไปเป็นเงินมาใช้หนี้ได้ คำตอบมันคือรถมอไซต์ที่ผมซื้อมานั้นคือ คาวาซากินินจา นั้นเอง 5555 ตกลงผมขายรถครับ ยอมกลับไปใช้ wave ตามอัตภาพ ขายได้เงินมาก 80000 เศษเอาไปใช้หนี้ซะ 60,000 ที่เหลือก็เอามาใช้จ่ายอีกเช่นเคยครับพี่น้อง *** สังเกตุนะครับว่าหนี้ก้อนของ TMB ปิดได้เพราะผมขายทรัพย์สินอีกเช่นเคย จบอีกบัญชี (เศร้าเลยชีวิตตู หมดรถหมดหล่อ อะเหื้อ !!!!)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58281 โดย art2527
มาต่อกันที่ Aeon บัญชีที่ 5 ที่ปิดได้ อันนี้ขอไม่เว่นละกันครับ ยอดตอนหยุด 3 บัญชีราวๆ 7 หมื่น ปิดไปโดยใช้เงินราวๆ 50,000 ถามว่าเอาเงินที่ไหนมาปิด ก็เหมือนเดิมแหละครับขายกล้องและเลนส์ที่เหลืออยู่ (งานนี้ไม่เหลือกล้องกับเลนส์) หมดแล้วครับของที่อุตสาห์สะสมมาและเป็นต้นเหตุแห่งหนี้ของผมทั้งหมด เอามันไปขายเอาเงินมาใช้หนี้ละกัน (คิดซะว่าไม่ตายก็ค่้อยเก็บเงินซื้อใหม่) ปิดได้ตอนต้นเดือน ก.ย. 57 นี้เองครับ **** สังเหตุเหมือนเดิม ขายทรัพย์สินมาใช้หนี้อีกแล้ว ยังคงไม่เคยมีบัญชีไหนที่ผมใช้เงินเก็บมาปิดเลยจ้า

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58282 โดย art2527
มาที่บัญชีสุดท้ายคือ CIMB (สินเชื่อ) ธนาคารนี้ไม่เคยโทรมาเลย เน้นส่งจดหมาย แต่มีเดือน ส.ค. 57 โทรมาเว้ยเห้ย คุยกันอยู่สักพักก็ตอบรับข้อเสนอไป (ยอดตอนหยุด แก้ไขจากที่เคยแจ้งไว้ตอนแรกนะครับยอดกู้ของผมคือ 65,000 (ไม่ใช่ 45,000 ที่เคยแจ้งไว้) มันให้ปิดยอดที่ 30,000 แบ่งจ่าย 2 งวด งวดละ 15,000 เอาละซิ กล้องก็ไม่มีให้ขายแล้ว รถก็ขายแล้ว คราวนี้ขายอะไรดีละ มันไม่มีให้ขายแล้ว ก็เลยตกลงลาออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทฯปัจจุบัน ได้เงินมาราวๆ 15,000 บาทเอาไปจ่ายเื่มื่อ 27/9/57 นี้เอง ส่วนก้อนแรก 15,000 จ่ายไปเมื่อ 27/8/57 แต่ก้อนแรกเป็นการไปขอยืมจากที่บ้านมาจ่ายนะครับ หมดซะทีหนี้เสียดอก เหมือนยกภูเขาออกจากอก ต่อไปนี้จะได้ลืิมตาอ้าปากได้ซะอี จะได้มีเงินเก็บกับเขาบ้าง อายุก็จะ 30 แล้ว ยังไม่มีเงินเก็บกับเขาสักที


สรุปเรื่องราวของผมมีมุมที่ให้คิดได้ดังนี้

1. เงินที่เราหยุดจ่ายแล้วคิดว่าจะเอามา H/C ผมไม่เคยเก็บได้ เป็นเพราะรายจ่ายที่ฟิกในแต่ละเดือนมันทำให้ผมไม่เคยเก็บได้เลยสักบาท
2. เงินก้อนที่เคยได้มาแทนที่จะเอาไว้ใช้หนี้ แต่กลับเอาไปบำเรอความสุขให้ตัวเอง (สุึดท้ายความสุขมันแค่ชั่วคราว แต่ความสุขกันหนักหนากว่าเยอะ
3. บางวันยิ่งช่วงปลายเดือนผมจะเดือนร้อนมากๆ แทบจะไม่มีเงินเหลือใช้เลย บางวันไม่มีแม้แต่เงินกินข้าว เพราะรายจ่ายที่ฟิก + เงินที่ต้องผ่อนให้แบงค์เพราะเราทำเรื่องผ่อนชำระปิดบัญชีไป (ลำบากมากครับ แถมสมเพศตัวเองด้วยซ้ำบางวันเพื่อนถามทำไมไม่ลงไปกินข้าวก็ต้องบอกแบบปัดๆ ไปว่ากินกาแฟแล้วอิ่มกินข้าวไม่ลง)
4. ผมปิดหนี้ได้ทั้งหมดนี้ก็ขอบอกเลยว่าที่บ้านมีส่วนช่วยมา 2 ครั้ง (แต่ไม่ได้ให้ฟรีนะครับผมก็ต้องไปผ่อนคืนให้ที่บ้านเหมือนกัน)
5. ผมเสียทรัพย์สินไป 2 อย่างในการปิดหนี้คือ กล้อง+เลนส์ทั้งหมด แถม Bigbike อีก 1 คัน
6. เวลาที่ได้หมายศาลมาอย่าไปกลัว ให้อ่านรายละเีอียดต่างๆให้ละเอียอ ดูอัตราดอกเบี้ยในใบสมัคร อัตราดอกเบี้ยที่เขาคิดกับเรา แล้วเอาข้อมูลตรงนี้ไปสู้กันที่ศาล
7. ทุกวันนี้ผมหมดหนี้กับแบงค์ก็จริงแต่ก็ยังคงต้องผ่อนเงินให้กับที่้บ้านที่ไปหยิบยืมมา (15,000 บาท)
8. ผมมีแฟนโชคดีที่แฟนผมไม่มีหนี้อะไรเลย ในเดือนที่ผมเดือนร้อนผมยังพอแบ่งกันใช้กับแฟนได้บ้าง แต่ก็ไม่ค่อยขอหลอกครับหากไม่จำเป็นจริงๆ อาจมีแค่ขอใช้นิดๆ หน่อยๆ ร้อยสองร้อย เท่านั้น
9. ไม่อยากให้โลกสวยว่าหยุดจ่ายแล้วจะมีเงินเก็บ ขอให้คิดว่าในชีวิตประจำวันเรามีรายจ่ายที่ไม่ได้คาดคิดไว้เข้ามาตลอด แต่ก็พยายามเก็บให้ได้มากที่สุดเท่าที่ท่านๆ จะทำได้นะครับ (ผมเองทำไม่ได้ครับตรงนี้)
10. ทรัพย์สินบางอย่างหากมันต้องตัดใจขายมันก็ต้องทำครับ คิดซะว่าตัดทิ้งไปบ้างเพื่ออยู่ให้รอด หากเรารอดเรายังมีโอกาศสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้
11. ท่านต้องยอมรับว่าประวัติท่านจะเสีย ไม่สามารถทำธุรกรรมอะไรได้ หลายคนบอกว่าดีจะได้ไม่เป็นหนี้ แต่ผมว่าไ่ม่ดีนะครับ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหากอนาคตเราจะซื้อบ้านสักหลัง ซื้อรถใหม่สักคัน เราจะสามารถขอกู้ธนาคารได้ไหม

สุดท้่ายขอให้สมาชิกทุกท่านโชคดี หมดหนี้กันเร็วๆ นะครัีบ เ้ข้ามาอ่านแต่ละกระทู้ยอมรับเลยครับว่้าหลายๆ ท่านเดือดร้อนจากชีวิตการเป็หนี้ ทำงานแทบตายไม่ได้ใช้ไม่ได้กิน ก็เพราะต้องเอาไปใช้แต่หนี้ๆ ผมเห็นหลายๆ คนที่กำลังเริ่มที่จะเป็นหนี้เชื่อผมเถอะครับ ท่านหยุด ท่านต้องหยุดสร้างหนี้ และวางแผนการใช้เงินของท่าน เพราะหากท่านยังไม่รู้จักหยุด ท่านเองนั้นแหละที่จะเจ็บที่สุด ถามว่าไปเอาเงินเขามา ยังไงเขาก็ต้องเอาคืนวันยังค่ำ แต่จะเอาคืนช้าหรือเร็ว มากหรือน้อยแค่นั้นเอง อยากให้หลายๆ คนใช้ชีวิตแบบรอบครอบ ไม่ใช่คิดว่าเอาแต่ใช้ๆ ไม่มีก็กดๆ บัตร บัตรเต็มก็ขอสินเชื่อเอา แรกๆ มันได้ไวครับแบงค์เขา่อะปล่อยง่ายอยู่แล้ว แต่มันยากตอนใช้คืนเขานี้แหละครับ

จาก สมาชิกท่านหนึ่งที่ได้นำแนวทางของชมรมไปปรับใช้ จนทุกวันนี้หมดหนี้ละครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58296 โดย tuckabt
ตามอ่านมาจนจบ ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น แต่หยุดแค่เดือนเดียวรับสายไม่เว้นวะนหยุดเลย ดีหน่อยวันนี้วันอาทิตย์ ไม่มีสายเข้าเลย แต่พรุ่งนี้ซิวันจันทร์ คงรับไม่ไหวอนาเลยย ช่วงนี้คงเป็นช่วงที่ต้องรับสายอย่างเดียวจิงๆๆหนักสุดน่าจะเป็นซิตี้แอดวานซ์ กับfirst choice ทวงได้จิกมาก เป็นผูชายแต่จิกยังกะผู้หญิง แถมโดนหลอกด่าอีกด้วย ว่าเป็นคนไม่รักษาคำพูด พูดจาไม่น่าเชื่อถือ เราก้อเงิบเลยค่ะ ดันไปเผลอนัดว่าจะจ่าย ถึงเวลาก้อไม่มีจริงๆๆเพราะเราอยากจะเก็บไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่มากก้อน่อย พรุ่งนี้ซิต้องรับศุึกหนักแน่นอน เครียด้เหลือเกินกับ1เดือนแรกของการหยุดจ่ายย :vomit:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58363 โดย art2527
เป็นกำลังใจให้ครับ พวกเจ้าหน้ามันจะหนักช่วงแรกๆ เท่านั้นผ่าน 3-4 เดือนไปจะหายๆ ไปกันเอง แต่การหายไปก็อย่างได้ชล่าใจนะครับ มันอาจมาอีกทีเป็นหมายศาลก็เป็นได้ และปัญหาหลักของลูกหนี้อย่างเราๆ คือรายจ่ายประจำวันที่มันเพิ่มขึ้นตามอายุ มันจะเป็นตัวที่คอยฉุดเงินที่เราคิดว่าจะเก็บหลังจากหยุดจ่ายบัตรเครดิต สุดท้ายแล้วสถานะการณ์จะเป็นอย่างไร จำไว้อย่างเดี่ยวครับว่าเราต้องอยู่ได้ ครอบครัวต้องอยู่ได้ กินอิ่ม นอนหลับ ส่วนเรื่องหนี้ไม่ต้องไปใจร้อนครับ แต่ก็ไม่ใช่จะชักดาบเขาซะทีเดียว เอาตัวเองให้รอดแล้วค่อยคิดใช้หนี้ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58394 โดย DOGMA

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58397 โดย art2527

DOGMA เขียน: citi advance นี่โทรทวงบ่อยมั๊ยครับ


บ่อยมากครับ เช้า-เย็น แถมส่งคนทวงถึงที่บ้านซะด้วย แต่ก็เป็นสินเชื่อที่ให้ส่วนลดงามมากๆ ตัวหนึ่งที่ผมปิดได้เลยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58408 โดย DOGMA
citi ประมาณกี่เดือนครับที่ตาม พนง. ทวงหนี้เปนไงพูดดีหรือใส่ตลอดทุกสายจะเอาให้ได้
ผมเจอ CMIB วันแรกก็บอกให้กำหนดวันมาเลย บอกไม่มีก็พูดวนไปวนมากำหนดวันมาๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

9 ปี 6 เดือน ที่ผ่านมา #58413 โดย art2527
/ /

DOGMA เขียน: citi ประมาณกี่เดือนครับที่ตาม พนง. ทวงหนี้เปนไงพูดดีหรือใส่ตลอดทุสายจะเอาให้ได้
ผมเจอ CMIB วันแรกก็บอกให้กำหนดวันมาเลย บอกไม่มีก็พูดวนไปวนมากำหนดวันมาๆ


ตอบครับ

city Advance หยุดจ่ายได้ 4 เดือนส่งคนมาหาที่บ้าน เป็นผู้ชาย 2 คนขี่ CBR มา (เหมือนพวกหนี้นอกระบบอะครับ) มาไม่เจอผม เจอแม่แทน พอมันรู้ว่าไม่เจอตัวลูกหนี้ มันก็เดินเอาเรื่องไปฟ้องคนข้างบ้านครับว่าผมเป็นหนี้แล้วไม่ยอมจ่าย

CIMB โทรมาช่วงแรกๆ แต่ก็ไม่บ่อยนะครับ หยุดจ่ายไปปีกว่า โทรมาไม่น่าเกิน 10 ครั้ง เน้นส่งแต่ จม. แต่ก็นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะส่งมาสักที ส่วนลดก็ราวๆ 50% เห็นจะได้ครับ ผมปิดไปเมื่อ 27/9/57 ท่ี่ผ่านมานี้เอง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.703 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena