สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้ก่อตั้งชมรม ประธานชมรม คณะกรรมการ ผู้ดูแลระบบ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายนะคะ พวกท่านทั้งหลายเป็นแรงกายแรงใจให้กับเพื่อนมนุษย์ลูกหนี้ทุกคน ให้ได้มีทางออกของตัวเองอย่างแท้จริงค่ะ หรือถึงแม้บางคนจะยังคงขลุกขลักอยู่บ้างเพราะหนี้ก้อนโตเหลือเกิน ก็ยังรู้สึกอบอุ่นเมื่อเข้ามาในเว็บไซต์นี้ค่ะ ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
กระทู้วันนี้คงขอทักทายพี่น้องก่อนแล้วกันนะคะ ชื่อ แก้ว ค่ะเป็นสมาชิกใหม่ เตรียมตัวหยุดจ่ายค่ะ กำลังศึกษาข้อมูล และเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นค่ะคาดว่าจะเตรียมหยุดประมาณ มิ.ย.59 อะค่ะขอเวลาทำใจ เพราะแก้วเองก็เคยมีประสบการณ์การโดนทวงหนักมากมาแล้วเหมือนกันค่ะ ช่วงนั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้แทบทุกคืน เมื่อ 3 ปีที่แล้ว(ปี 56) เคยช็อตอยู่พักนึง ตอนนั้นแฟนเปลี่ยนงาน อยู่ในช่วงหางานใหม่ เลยต้องทำงานหาเงินคนเดียวอยู่ 6 เดือนค่ะ แล้วต้องให้แม่เราด้วย ไหนมีค่าใช้จ่ายในบ้านเลยหนักมากค่ะ ช่วงนั้น ไม่จ่ายค่าบัตรติดกันนานสุด 5 เดือน (น่าเสียดายตอนนั้นยังไม่รู้จักเว็บไซต์นี้ค่ะ ถ้ารู้จักคงหยุดจ่ายไปนานแล้ว เพราะมืด 8 ด้านมากๆ แต่ช่างมันค่ะผ่านไปแล้ว ก็เริ่มใหม่) แล้วสุดท้ายเราเลยคุยกับหัวหน้าขอเอาแฟนเข้ามาทำงานบริษัทเดียวกันค่ะ ไม่งั้นตายแน่ๆ ทีนี้พอ มี.ค.57 แก้วได้โบนัสมา 1 เดือนค่ะ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เลยเนาะ (แต่แฟนไม่มีโบนัสนะคะเพราะเป็น contact) ก็เลยลองจัดระบบ ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายตั้งแต่นั้นมา ก็เริ่มโปะนู่นนี่นั่นจนประคองมาได้เรื่อยๆด้วยการจ่ายขั้นต่ำมาตลอดค่ะ แล้วก็ขอสินเชื่อ Citibank มาเพิ่มอีก เพื่อโปะๆๆ ก็ดีขึ้นมาหน่อย
จนมาช่วงปลายปีที่แล้วค่ะ ต.ค.58 เราแต่งงานกับแฟนค่ะ (มีสถานการณ์บางอย่างบังคับให้ต้องแต่งค่ะ ถ้าเล่าจะยาวมากๆ) เราก็เลยจัดงานแบบประหยัดที่สุดแล้วค่ะ (ตอนแรกตั้งใจจะใช้งบแค่ไม่เกิน 20,000) ไปมางบก็บานปลาย จนใช้เงินไปเกือบ 100,000 ค่ะ พอมาปีนี้ 59 ไม่มีโบนัสอีกเนื่องจากบริษัททำยอดไม่ได้ตามเป้าค่ะ
(ปีหน้าก็ท่าจะไม่รอดเหมือนกัน เพราะเศรษฐกิจเงียบมาก) พอหลังจากแต่งงานก็เลยเริ่มกลับมาระบบเดิมอีกแล้วค่ะ จ่ายแล้วกด กดแล้วจ่าย เรา 2 คนกับแฟนทำงานมา เหลือเงินที่ใช้ได้จริงๆ 500 บาทเท่านั้นเองค่ะ เหอๆๆ เลยคิดว่าต้องหาวิธีอะไรสักอย่าง ปล่อยแบบนี้คงไม่ดีแน่ๆ พอได้มาพบเว็บนี้ ศึกษาวิธีปลดหนี้แบบ two way เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ แต่ต้องใช้ความอดสูงมากจริง อย่างที่พี่ๆบอกไว้แหละไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ต้องแลกกับความลำบาก ขอแสดงความนับถือผู้ทีเป็นไทแล้วด้วยนะคะดีใจด้วยจริงๆ และแก้วก็ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องที่ยังอยู่ในช่วงปลดหนี้ จะใช้วิธีใดๆก็แล้วแต่ ขอให้ผ่านพ้นมันไปได้และประสบความสำเร็จด้วยความอดทน อดกลั้น ให้อภัย(พวกทวงหนี้โหด) ถ้วนทั่วทุกคนนะคะ
พล่ามมาพอสมควร แก้วจะขอแจกแจงหนี้ดังนี้ค่ะ เงินเดือนเรากับแฟน รวมกัน 36,000 มีหนี้ของเราคนเดียวดังนี้
Bank
1. Citibank loan สินเชื่อ 165,000 จ่ายเดือน 4,384 x 37 งวด
2. Citibank visa บัตรเครดิต 32,000 ขั้นต่ำ 3,500 (ใช้ซื้อของ+หักค่าสาธารณูปโภค)
3. SCB speedy cash บัตรกดเงิน 42,000 ขั้นต่ำ 4,000 (จ่ายแล้วกดมา)
4. UOB Credit บัตรเครดิต 34,000 ขั้นต่ำ 4,300 (ใช้ซื้อของ+เติมน้ำมัน)
5. UOB Cash บัตรกดเงิน 25,000 ขั้นต่ำ 1,500 (จ่ายแล้วกดมา)
Non-bank
6. Aeon 85,000 บัตรเครดิต 85,000 ขั้นต่ำ 11,500 (หักค่ามือถือ 3เบอร์+กดมา)
7. Tesco premier บัตรกดเงิน 45,000 ขั้นต่ำ 3,500 (จ่ายแล้วกดมา)
8. Tesco visa บัตรเครดิต 30,000 ขั้นต่ำ 4,000 (ใช้ซื้อของ)
สัญญาเช่าซื้อ (ชื่อของแก้วเองทั้งหมด)
9. ค่าบ้านเอื้ออาทร ผ่อนออมสิน (อีก 15 ปี) เดือนละ 3,100
10. Grouplist รถมอเตอร์ไซด์ pcx 3,725 x 33 งวด
คันนี้เราใช้ขี่ไปงานกับแฟนค่ะ เพิ่งออกมาได้ 2 เดือน เนื่องจากคันเก่าโดนขโมยหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ที่จริงเราจะออกแค่รถถูกๆน่ะค่ะมาใช้งาน แต่คันนี้พ่อเราดาวน์ให้น่ะค่ะ เค้าบอกให้ขับรถคันใหญ่ๆ เพราะคันเล็กๆเค้ากลัวเรื่องอุบัติเหตุ แต่พ่อเราไม่รู้ค่ะว่าเรามีหนี้เยอะ พ่อเคยปิด Umay กับ Aeon ให้เราเมื่อปี 54 ไป 65,000 ค่ะ แล้วบอกเราว่าห้ามทำบัตรอีก แต่เราก็ยังไม่วายไม่เชื่อฟังบิดามารดา นี่ละค่ะผลของกรรม ก็รับกันไป
11. Grouplist (รถมอเตอร์ไซด์คันเก่า) 1,000 x 15 งวด
คันนี้เราแจ้งความรถหายเมื่อเดือน มี.ค.59 ซึ่งเหลืออีกเพียง 6 งวดก็จะหมด เค้าเลยปิดยอดหนี้ที่ 17,630 ค่ะ เค้าให้ผ่อนเดือน 1,000 ว่าเดือนหน้าจะทำเนียนๆจ่ายแค่เดือน 500 อยู่ค่ะ
ทั้งนี้เราก็อยู่ในช่วงทำใจอยู่ค่ะ และวางแผนอยู่ค่ะ ว่าจะหยุดจ่ายอันไหนไม่จ่ายอันไหนบ้าง แต่ก็จะยอมรับกับสิ่งที่เราก่อขึ้นมาว่าเป็นหนี้ก็ต้องใช้ค่ะ ถึงแม้บางครั้งอาจเกิดจากการถูกหยิบยืมไปแล้วตามคืนไม่ได้บ้าง แก้วเองก็โดนบ่อยค่ะเพราะเราเป็นคนดีขี้สงสารคนอื่นจริงไหมคะ แค่นี้เราก็ได้บุญแล้วได้ช่วยเหลือผู้อื่น 555 หัวเราะทั้งน้ำตา
(ทุกวันนี้เป็นหนี้มากๆจนต้องเข้าหาธรรมะเพื่อบำบัดจิตใจค่ะ สติไม่มาปัญญาไม่เกิดจริงๆ)
แก้วยอมรับว่าตัวเองยังไม่มีความกล้าพอค่ะ กลัวโดนฟ้องยึดทรัพย์ ซึ่งก็มีบ้านเป็นสมบัติติดตัวเพียงอย่างเดียว ส่วนมอเตอร์ไซด์ก็คงปล่อยให้เป็นไปเพราะคงอีกนานกว่าจะผ่อนหมด แล้วกังวลเรื่องอายัดเงินเดือน ที่จริงไม่ได้กลัวที่จะโดนหักเงินหรอกนะคะ ที่กลัวคือจะไปรบกวนผู้จัดการฝ่ายบัญชีมากกว่า เพราะคุณพี่เค้าเป็นคนดุมากๆและขี้บ่นจริงๆ บ่นทุกสิ่งอย่าง แต่ก็จะลองหาวิธีดูค่ะ ทุกๆอย่างเราจะผ่านไปให้ได้ ถ้าแก้วเริ่มหยุดเมื่อไรจะรีบแจ้งให้เพื่อนๆทราบในทันทีนะคะ ขอพี่น้องผู้ร่วมทางทั้งหลายสู้ๆ นะคะ เอาชนะอุปสรรคทุกอย่างไปให้จงได้ค่ะ สาธุ เอเมน