ถึงทีผมซักทีปลดหนี้ อิออ,ยูม่า,ตัสพรีเมีย,เฟสชอย,พาวเวอบอย

ถึงทีผมสักทีปลดหนี้
ผมไม่ลงรายละเอียดเยอะนะครับเพราะเพื่อนส่วนใหญ่มีปัญหาหนักอกหนักใจกลุ้มใจเรื่องหนี้พอสมควรแล้ว ผมไม่อยากนำเรื่องมาให้อ่านให้เพื่ม ความเครียดอีก

ตอนผมเป็นหนี้จนถึงทางตันก็หาทางออกไม่เจอได้แต่คิดว่า ผมแย่แล้วไม่มีทางออก ตอนนี้ผมไม่กลัวปัญหาอะไรอีกแล้วมันสอนผมให้ผมเป็น มนุษย์ผู้ทนทานต่อความทุกข์ค่อนข้างสมบูรณ์ หนี้อาจจะไม่ได้เยอะมากนะครับ แต่มันก็กัดกร่อนจิตใจและความสุขในชีวิตพอสมควร

หนี้มีดังนี้ครับ
เงินเดือน 25000 บาท หยุดจ่าย สิ้นเดือนตุลา 58

1.หนี้บัตรเครดิตกสิกร วงเงิน 48000 ยังจ่ายอยู่เพราะลิงค์บัญชีเงินเดือน แต่คิดว่าบัตรอื่นหมด จัดแน่ๆ ขั้นต่ำ 4800 บาท ยังจ่ายบางเดือนต้องจ่ายประกัน ซ่อมรถให้ที่บ้านก้ยังมีการรูดอยู่แต่ไม่หนักใจเท่าไหร่เพราะจัดการได้อยู่ครับ

2.กู้ร่วมออมสิน 3 คน วงเงิน 150000 บาท จะหมดแล้วเหลือไม่กี่หมื่น จ่ายเดือนละ 3000 กับเพื่อนในออฟฟิส เป็นหนี้ที่กรีดเลือดร่วมสาบานกัน ค้ำประกันซึ่งกันและกัน ตัวเองลำบากได้แต่จะระรานให้คนอื่นลำบากเห็นจะไม่ได้

3.บัตร กดเงินสด ยูม่าพลัส 30000 บาท ตัวเลขคร่าวๆนะครับ ได้ส่วนลด จะปิดสิ้นเดือน นี้(01/07/2559) ได้ส่วนลดเหลือ 10000 ถ้วนจ่ายงวดเดียว ลด 67%

4.บัตรสินเชื่อ พาวเวอร์บอย ยอดปาไปที่ 20000 บาท ได้จ่ายจริง 10000 บาท ลด 50% จ่ายไปแล้ว ได้หนังสือปิดแล้ว อันนี้หลังหยุด 4 เดือน

5.บัตร โลติส พรีเมียร์ ยอดหนี้วิ่งไป ที่ 50000 ได้ส่วนลดเหลือ 27000 บาท ที่จริงถ้ารออีกหน่อยได้งามกว่านี้ แต่แค่นี้ก็พอใจแล้ว เพราะผ่อนจ่ายยอดจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อย หลังหยุด 4 เดือน ได้จ่ายเดือนละ 8500 x3 เดือน จ่ายหมดแล้ว รอหนังสือปิด

6.เฟสช้อยส์ 50000 บาท 5เดือนที่หยุดจ่าย เสนอมา 25000 ถ้วนจ่าย 2 ครั้งตอนนั้นยังไม่พร้อม ต่อรองจนได้ 5500x6 เป็นยอดถึง 33000 บาท แต่รับได้พอใจผมจ่าย ที่จริงก็อยากรอนะ แต่ผมอยากจบเร็วๆ อันนี้เหลือ 3 งวด ก็จะเป็นไท

7.อิแออน นานๆโทรมาที  ยอดน่าจะ 90000 บาท ตอนนี้หนี้ที่หยุดจ่าย 5 ใบสามารถคุยได้ 4 และจ่ะจ่ายหมดอีก2 เดือน หลังจากนั้นค่อยจะเจรจากับอิออน ไม่เครียดแล้ว

ผมเป็นหนูลองยาในออฟฟิส ตอนแรกทุกคนไม่เห็นด้วยเเละไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ คนรอบข้างแม่กับแฟนเครียดมาก ผมก็เครียดแต่เดินไปทีละก้าว วันที่ผมเริ่มปิดไปทีละบัตร ทุกคนรู้ว่ามาถูกทาง แม่ผมแฟนผมไม่เครียดแล้วเพราะรู้ว่าผมเอาอยู่ อาจไม่ใช่เงินเยอะในสายตาของคนที่มีหนี้เป็นล้านๆ แต่มันก็บั่นทอนจิตใจอย่างที่ผมบอก ตอนนี้เพื่อนๆในออฟฟิสก็เริ่มมาปรึกษาและทยอยทำกันแล้ว เพราะเปลือกมันสวยงามแต่ปัญหามนุษย์เงินเดือนมันก็คล้ายๆกัน

แรกๆผมยอมรับว่าผมทำใจไม่ได้กับการต้องเดินไปทำงานไม่มีรถขับ เพราะผมขายเอาเงินไปใช้หนี้นอกระบบของครอบครัว อันนั้นเหลือ แสนนิดๆ ใกล้หมดแล้ว แต่มันต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไป แต่ว่าเราไม่อาจทำอะไรได้สุดโต่งได้ ประหยัดก็ต้องมีขอบเขตสมควร ตอนนี้ผมปรับตัวได้ทุกอย่างแล้ว

มาว่าถึงการรับสาย แรกๆผมก้ไม่อยากรับ อยากตัดภาพไป 3เดือนเลย แต่ต้องบอกว่า ต้องยอมรับความจริง แรกๆเหมือนทุกคนหล่ะครับ วันนึง เป็นสิบสาย เทคนิคผมคือ เตรียมใจไว้ ว่าแต่ละบัตรมีพนักงานทำงานเป็นรอบๆ ทุกคนต้องโทร ตีไปเลย 4 สาย ต่อบัตร ผมไม่จ่าย 5 บัตร ก็ประมาณ 20 สายอ่ะครับ ที่ผมเตรียมใจจะรับต่อวัน รับสายลูกค้าที่ทำงานมากกว่านี้อีก 555  แต่เอาจริงๆ ไม่ถึงหรอกครับ 3 เดือนแรก ประมาณ 10 สาย ต่อวันน่าจะได้ โทรมาผมรับฟัง ผมบอกเลยครับว่าตอนนี้ผมไม่ได้เป็นหนี้เจ้าคุณเจ้าเดียว กำลังหาเงินมาจ่ายครับ ไม่หนีครับ ก้ตามสเตปที่เราศึกษามา ประนอมหนี้ เราไม่ทำ จ่ายหยอดเราไม่ทำ ถ้าเขาพูดเรื่อง ส่วนลดมาเราก็คุยเลยว่า อยากได้เท่าไหร่เป็นไปได้ไหม เดี่ยวนี้การทวงหนี้ดีมากๆเลยครับ ผมชอบมาก เวลาผมคุยกับเจ้าหนี้ทุกคนบอกว่าคุยกับแฟนหราคุยเพราะจัง เค้าอย่างนั่นอย่างนี้ ตัวเองขอให้หน่อยนะๆ พนักงานทวงหนี้เขาทำตามหน้าที่นะครับ

โอเครครับ ขอให้ทุกคนหมดหนี้นะครับ ใครที่ยังไม่ทำ แต่แน่นจนไม่ไหวแล้วตัดสินใจทำเถอะครับยิ่งนานคุณจะยิ่งแย่ ส่วนผม ก็เพิ่งมาถึงครึ่งทางเองครับ

สุดยอดเลยค่ะเป็นกำลังใจให้

ให้กำลังใจค่ะ ตัวเองถูกโทรทวงเหมือนกัน แต่คิดว่าเค้าทำหน้าที่ ส่วนเราก็เป็นหนี้เค้าจริง เลยพยายามที่จะไม่รู้สึกอะไร แต่มีช่วงนึงเป่เหมือนกันนะ เครียดมาก มาอ่านของคนอื่นบ้าง มีเพื่อนช่วยให้กำลังใจบ้าง ก็ผ่านมาได้