ปฏิบัติการ สู้ปลดหนี้

สวัสดีครับทุกท่าน ผมเป็นสมาชิกใหม่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ก่อนที่ผมจะเจอเว็บนี้ มีเพื่อนของผมคนนึงเขาได้ใช้วิธีการต่าง ๆ อย่างที่ผมได้อ่านมาจากเว็บนี้ ทีแรกผมก็ตกใจ เฮ้ย มีแบบนี้ด้วยหรอเพื่อน โธ่ โธ่ จ่ายเป็นลูกหนี้ดีมาตั้งหลายปีมาก เคยเห็นใบเสร็จที่เราจ่าย แล้วอนาจใจ จ่ายดอกกับค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน เยอะกว่าคืนเงินต้นเราซะอีก เมื่อไหร่จะหมดว่ะ.... จนมาเจอเพื่อนเหมือนสวรรค์ แต่ผมก็รู้แค่คร่าว ๆ จนผมมาเจอเว็บนี้แล้วได้ลองอ่าน ลองศึกษาดู รู้สึกโล่งขึ้นเยอะ แต่บางกระบวนการอาจจะยังไม่เข้าใจอยู่บ้าง แต่ เดี๋ยวค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้น ๆ ดีกว่า

ก็เลยอยากมาเล่าเรื่องประสบการณ์ของตัวเองดูบ้าง เผื่อคนที่เข้ามาใหม่ ๆ ที่มีลักษณะคล้าย ๆ กัน ได้ร่วมสู้ไปด้วยกัน

รายละเอียดหนี้ของผมครับ

1. TMB refinance ยอด 102,575.14 หยุดจ่าย 20/01/2560
2. Umay Plus ยอด 103,654 หยุดจ่าย 2/02/2560 เป็นทาสนรกมันมา 7 ปี ดูดเลือดดูดเนื้อไปเท่าไหร่แล้ว
3. JMT Plus ยอด 86,000 หยุดจ่าย 1/01/2560
4. Krungsri Smile cash เงินต้น 110,000 จ่ายไป 32 งวด เหลือยอด 61,352.76 หยุดจ่าย 25/01/2560
5. Frist Choice ยอด 60,000 หยุดจ่าย 25/01/2560
6. Promise ยอด 33,546 อันนี้หักผ่านบัญชี งวดละ 1,300 บาท เลยปล่อยเป็นปกติไปก่อนครับ

รวมทั้งสิ้นประมาณ 440,000 บาท

หลังจากหยุดไปแล้ว เป็นเวลา 1 เดือน หลาย ๆ เจ้าโทรมาไม่บ่อยครับ บอกไม่มีครับ ถ้ามีเดี๋ยวผมไปจ่ายเองครับ ก็ไม่โทรมาดีมาก ๆ ยกเว้น อีซี่บายครับเจ้าเดียว โทรมาตั้งแต่วันที่ 3/02/2560 ทุกวันถ้าไม่รับสาย โทรทุกรายชั่วโมง เวลาคร่าว ๆ โดยประมาณ 08.30/09.30/10.30/11.30/13.30/14.30/15.30/16.30/17.30/18.30 พอรับสายถึงจะต่อรองให้เราไปจ่ายภายในวันนั้นวันนี้ ก็ตัวเรารู้ดีที่สุด ไม่มีก็ไม่มี จนล่าสุด เมื่อวันที่ 16/02/2560 รับสายเป็นเสียงผู้ชาย พูดเหมือนเดิม ทำเป็นเสียงเข้ม ๆ ผมเลยบอกว่า

คุณครับ! ไม่มีก็คือไม่มี จะให้ไปหาที่ไหนครับ มีการบอกให้เราไปหายืมคนรู้จัก พอดีศึกษามา เลยตอบไปว่า เพื่อนก็มีหนี้กับบริษัทคุณเหมือนกัน เดี๋ยวผมไปยืมให้เอาไหม แล้วเงียบไปสัก 5 วินาที แล้วก็ตอบผมกลับมาว่าเอางี้แล้วกันลองดูว่า ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์นี้คุณพอจะหามาจ่ายได้ไหม

ผมตอบสั้น ครับ แล้ววางสาย ทำให้เงียบหูไปได้ 3 วัน


รอดูต่อไปว่า สัปดาห์หน้า จะ fighitng กันแบบไหน

เช้าวันจันทร์ 20/02/2560 มาอัพเดทนิดหน่อย

แปลกใจ Umay เงียบได้เหมือนกัน ปกติ 08.30 ก็ต้องโทรมาแล้ว

ส่วน TMB โทรเข้ามาแล้วเมื่อเช้า

จนท. "ได้ชำระค่างวดมาหรือยังค่ะ" (เพราะ ของ TMB วันนี้ผมชนครบ 2 งวดพอดี)
ผม "ยังครับ ตอนนี้ยังไม่มีครับ ขาดสภาพคล่อง"
จนท. "ค่ะ งั้นส่งเรื่องตามระบบ นะคะ"
ผม "ครับ" แล้ววางสายไป

ศึกษามาแล้ว ก็เตรียมรับมือตามระบบ ตามขั้นตอนครับ

ส่วนรายอื่น ๆ ผมว่าน่าจะครบชนงวดที่สอง คือ 25/02/2560 นี้ จะมาอัพเดทให้ฟังกันต่อครับ

สวัสดี วันอังคาร 21/02/2560 อัพเดท

หลังจากที่เมื่อวานทักว่า อีซี่..... หายไปไม่มาทัก ฤกษ์งามยามดี โทรมาเข้ามาเวลา 08.40 น. แต่เช้าเลย

ก็ตามวิธีการของเขาให้เราจ่ายหยอด ลดลงไปเรื่อย ๆ 300 / 500 บาทก่อนก็ได้เพื่อเดินบัญชี
(ผมคิดในใจ เก็บไว้จ่ายคุณทีเดียวดีกว่า) คิดแบบนี้สบายใจ เลยเจรจาให้โทรมาใหม่สิ้นเดือน คงจะเงียบไปได้บ้างไม่ต้องโทรมาตามจิกเป็นไก่ทุกวัน รายชั่วโมง

ส่วน เฟิร์ส นี่ โทรมา เหมือนเดิม ทวงยอดงวดแรก + งวด 2 ที่จะถึง 25/02/2560 นี้ด้วย

จนท. "ทางคุณได้ชำระเข้ามาหรือยังค่ะ"
ผม "ยังครับ ตอนนี้ยังไม่มีเงินครับ"
จนท. "ปัญหาการเงิน ระยะสั้นหรือระยะยาวค่ะ?" ถามอย่างกับว่าผู้เชี่ยวชาญผ่านมาหลายเคส ฮ่า ๆ
ผม "บอกไม่ได้หรอกครับ ถ้ามีเดี๋ยวผมจ่าย ไม่หนีครับ ติดต่อได้ตลอดครับ แต่ตอนนี้ไม่มีครับ"
จนท. "วันศุกร์จะติดต่อกลับมาใหม่นะค่ะ"
ผม "ครับ" วางสาย

กรุงเก่า
นี่โทรมาตามปกติครับ ก็มีแต่ขอร้อง "ช่วยดูชำระค่างวดให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ" แล้วก็วางสาย ง่าย ๆ ดี

แต่แปลกใจ JMT น้องใหม่ จะเข้างวด 3 แล้ว หายไปไหนจากชีวิตหนอ..... ไม่เห็นโทรตามเลย (พรุ่งนี้มาแน่ ๆ ทักทีไรมาทุกที)

มีอะไรเพิ่มเติมจะมาอัพเดทกันต่อนะครับ กับข้อมูลในการสู้หนี้ของเคสและเหตุการณ์ปัจจุบัน

ติดตามนะคะ กำลังจะเริ่มหยุดจ่ายรอhcบ้างละค่ะ สู้ๆค่ะ

ขอบคุณ kigyakuza ให้กำลังใจเช่นกันครับ

วันนี้ 24/02/2560 มาอัพเดทกันต่อ

ล่าสุดเลย อีซี่.... พึ่งโทรมา ให้หัวหน้ากลุ่มโทรมา

จนท. "เป็นไงบ้างครับ คุณ.... ได้ชำระเข้ามาหรือยังครับ เหมือนที่ผมเคยบอกไว้ ผมช่วยได้ จ่ายมาเท่านี้
ก่อน ก็ได้นะครับ"
ผม "(คิดในใจ แหม ให้ตูจ่ายดอกกับค่าธรรมเนียม+ค่าติดตามทวงถาม ให้พวก... อ่ะจิ) เหมือนเดิมครับ
ยังไม่มี ถ้าจะโทรสิ้นเดือนค่อยโทรมาใหม่นะครับ"
จนท. "ผมเข้าใจนะครับ ยังไงลงข้อมูลไว้ว่าวันที่ 28 ก.พ. 60 ติดต่อกลับมาใหม่ มีอะไรสงสัยสอบถามเพิ่ม
เติมไหมครับ"
ผม "ไม่มีครับ" วางสายไปเลย จบ

TMB โทรมาบอกถาม บอกไม่มีเหมือนกันครับ วางสายไปอีกวัน ให้อีกคนโทรมา ผมก็บอกไปว่า
"เมื่อวานก็โทรมาบอกไปแล้วไม่ใช่หรอครับ ว่าไม่มีจะโทรมาอีกทำไมครับ" รีบวางสายไปเลย
คงจะตกใจ เวลาผมพูดแบบเคร่งขรึม เสียงผมโหดมากเลย มาอีกวัน ถึงได้ส่งข้อความเข้ามือถือ
ก็คงตามระบบปกติ

กรุงเก่าเงินยิ้ม โทรมาทวงถาม เพราะบอกว่าใกล้จะชนครบ 2 รอบบิลแล้วนะค่ะ ก็คือวันพรุ่งนี้ บอกไม่มี
ก็วางสาย
กรุงเก่าอีช้อย โทรมาถวง 2 รอบ เพราะยอด 2 เดือนชำระก็ 10000 กว่า บอกไม่มีเหมือนกันแล้ววาง
สายเพราะยังไม่เจอ จนท. ที่ทวงแบบไม่ดีหรือพูดจากวน ผมเลยยังไม่ได้วิชาอะไรจาก
เว็บนี้ อดเลยผม

วันก่อนบอก JMT นองใหม่ไม่เห็นโทรมาทวง อีกวันโทรมาจนได้ แต่ก็ดีครับ บอกไม่มีเหมือนกัน แต่ฟังจากน้ำเสียงเหมือนไม่ค่อยพอใจ แต่ จนท. ยังนิ่ง ๆ จบประเด็นไปได้ดี (เพราะได้ข่าวมา JMT ทวงกวน
พูดจาไม่ดี ก็จะรอดูต่อไป)

เอาล่ะ เหตุการณ์กำลังเข้าสู่สภาวะ เดือนที่ 3 แล้วสำหรับการเดินทางที่หยุดจ่าย เรื่องราวจะเข้มข้นขนาดไหน ไว้เรามาดูกันครับ

ขอบคุณครับที่ติดตาม

สวัสดีวันศุกร์นะครับ หลังจากที่ผมไม่ได้มาอัพเดทนาน วันนี้เลยเล่าต่อให้ฟังกันนะครับ

หลังจากที่ล่าสุดผมได้ตอบคำถามไปของแต่ละที่ อันเนื่องด้วยผมเป็นลูกหนี้ที่ดีมาก ๆ คนนึง การเจรจาบางครั้งเลยทำให้ยืดระยะเวลาสงบหูไปได้ช่วงเวลาหนึ่ง

Umay plus ล่าสุด ก็อย่างที่รู้ ๆ นะครับ พอใกล้จะครบยอด 4 งวด ก็จะโทรมาให้ชำระก่อนสักงวด เพือลดขั้นตอนการปิดยอดบัญชี และ เรียกเก็บยอดทั้งหมด รอขั้นตอนนี้อยู่แหละครับ แต่กว่าจะพูดจบ ก็วนไปอยู่นั่น วันนี้เงินเดือนออกไม่ใช่หรอครับ พอจะมีเงินชำระสัดยอดหนึ่งก่อนไหม ตอบได้คำเดียวว่าไม่มีเลยครับตอนนี้ ไว้ชำระทีเดียวครับ ถ้ามีนะครับ หลังจากนี้ผมว่า ก็คงรอขั้นตอนต่อไปของเขาล่ะครับ

TMB นี่ก็พอรู้แล้วว่าเรา รับสายบ้าง ไม่รับบ้าง พอรับก็เจอแต่คำตอบของเราว่า ไม่มีครับ ก็เลยใช้วิธีการส่งข้อความมาแจ้งเตือน มาวันละข้อความ แต่ส่งมาทุกวันจริง ๆ

เฟิร์สช้อย อันนี้มีการพูดข้อเสนอให้เราแบบบังคับตัวเลือกว่าจะให้เรา จ่ายขั้นต่ำตามงวด หรือจะ จ่ายน้อนกว่าเดิมต่องวด ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 555 ตอบได้คำเดียวว่า ถึงจะปีับไปแล้ว ผมก็ยังไม่มีเงินมาชำระให้ครับ เพราะไม่มีจริง ๆ ก็ส่งเรื่องตามขั้นตอนต่อไป

เจเอ็มที พลัส ตามมา เข้างวด 4 แล้ว พอเราบอกไม่มีชำระ ก็ส่งเรื่องตามขั้นตอนต่อไป

เอาล่ะครับ ทุกอย่างกำลังดำเนินตามขั้นตอนที่ 2 โปรดตืดติดตามตอนต่อไปว่า ผมจะต้องเจอกับตัวแทนเจ้าหนี้รูปแบบไหนบ้าง และผมจะต้องลุยศึกนี้ ยังไง

สวัสดีคะ เข้ามาตามอ่าน ติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ โดยส่วนตัวของเอมแล้ว เอมเพิ่งจะหนุดจ่ายไป 2 บัตรด้วยกัน คือ
1. ยูเมะพลัส ยอด 88,000 บาท หยุดจ่ายไปเมื่อ 2/3/60
2. เคทีซี พราว ยอด 40,000 บาท หยุดจ่ายไปเมื่อ 2/3/60

หยุดไป 2 ใบ แต่ยูเมะโทรมาทุกวันเลยคะ รับบ้าง ไม่รับบ้าง พอไม่รับปุ๊ปก็โทรเข้าเครื่องคุณแม่ทันที ก็รู้สึกเครียดๆ นะคะ กลัวด้วย แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเงินแบบสุดๆ จริงๆ บวกกับที่มาอ่านในเว็บ ก็เลยรู้สึกว่า หยุดจ่ายขั้นต่ำซะทีเถอะเอม ก็เลยตัดสินใจหยุด แต่ทางยูเมะก็โทรมาทุกวัน ทุกชั่วโมงจริงๆ ล่าสุดก็ให้จ่ายแบบ 100/300/500 มีเท่าไรจ่ายมาก่อนนะคะ แต่เอมก็บอกว่าไม่มีเลยคะ
ส่วนทางบัตร เคทีซี พราว พนง.พูดจาดีมากๆ เลยคะ โทรมาอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จะรับสายตั้งแต่วันจันทร์ ก็บอกเขาว่ายังไม่มีเลยคะ เขาก็ถามว่ามีเมื่อไร ก็ตอบว่าไม่รู้เลยคะ และวันศุกร์เขาก้อโทรมาใหม่ เป็นแบบนี้มาตลอดเลยคะ แต่ล่าสุด พนง. บอกว่า ถ้าไม่ชำระ บัญชีร่วมของคุณก็จะใช้งานไม่ได้เช่นกันนะคะ ก็เลยสงสัย ว่า บัตรเครดิต เคทีซี วีซ่า ที่ยังส่งจ่ายอยู่และยอดที่ 8,000 บาท จะใช้ไม่ได้ด้วยหรอคะ แอบกลัว เพราะยังใช้บัตรนี้อยู่ เอาไว้รูดซื้อของใช้ในบ้าน แต่ก้อส่งขั้นต่ำบ้าง ส่งเกินบ้าง แต่ก็แอบกลัวคะ

ยังไงขอติดตามข้อมูลของทางคุณ zaxsoda7 ต่อไปนะคะ....

ข้อ ๑. ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ ความว่า มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ “ข้อสัญญา” หมายความว่า ข้อตกลง ความตกลง และความยินยอม รวมทั้งประกาศ และคำแจ้งความเพื่อยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดด้วย
“ผู้บริโภค” หมายความว่า ผู้เข้าทำสัญญาในฐานะ ผู้ซื้อ ผู้เช่า ผู้เช่าซื้อ ผู้กู้ ผู้เอาประกันภัย หรือ ผู้เข้าทำสัญญาอื่นใดเพื่อให้ได้มา ซึ่งทรัพย์สิน บริการ หรือประโยชน์อื่นใดโดยมีค่าตอบแทน ทั้งนี้ การเข้าทำสัญญานั้นต้องเป็นไปโดยมิใช่เพื่อการค้า ทรัพย์สิน บริการ หรือประโยชน์อื่นใดนั้น และให้หมายความรวมถึงผู้เข้าทำสัญญาในฐานะผู้ค้ำประกันของบุคคลดังกล่าวซึ่งมิได้กระทำเพื่อการค้าด้วย “ผู้ประกอบธุรกิจการค้าหรือวิชาชีพ” หมายความว่า ผู้เข้าทำสัญญาในฐานะผู้ขาย ผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าซื้อ ผู้ให้กู้ ผู้รับประกันภัย หรือผู้เข้าทำสัญญาอื่นใดเพื่อจัดให้ซึ่งทรัพย์สิน บริการ หรือประโยชน์อื่นใด ทั้งนี้ การเข้าทำสัญญานั้นต้องเป็นไปเพื่อการค้า ทรัพย์สิน บริการ หรือประโยชน์อื่นใดนั้นเป็นทางค้าปกติของตน “สัญญาสำเร็จรูป” หมายความว่า สัญญาที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษรโดยมีการกำหนดข้อสัญญาที่เป็นสาระสำคัญไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะทำในรูปแบบใด ซึ่งคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนำมาใช้ในการประกอบกิจการของตน มาตรา ๔ ข้อตกลงในสัญญาระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจการค้า หรือวิชาชีพ หรือในสัญญาสำเร็จรูป หรือในสัญญาขายฝาก ที่ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจการค้า หรือวิชาชีพ หรือผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป หรือผู้ซื้อฝาก ได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควร เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น ในกรณีที่มีข้อสงสัยให้ตีความสัญญาสำเร็จรูปไปในทางที่เป็นคุณแก่ฝ่ายซึ่งมิได้เป็นผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูปนั้น ข้อตกลงที่มีลักษณะ หรือมีผลให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ปฏิบัติหรือรับภาระเกินกว่าที่วิญญูชนจะพึงคาดหมายได้ตามปกติ เป็นข้อตกลงที่อาจถือได้ว่า ทำให้ได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น (๒) ข้อตกลงให้ต้องรับผิดหรือรับภาระมากกว่าที่กฎหมายกำหนด หมายเหตุ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากหลักกฎหมายเกี่ยวกับนิติกรรมหรือสัญญาที่ใช้บังคับอยู่มีพื้นฐานมาจากเสรีภาพของบุคคล ตามหลักของความศักดิ์สิทธิ์ของการแสดงเจตนา รัฐจะไม่เข้าไปแทรกแซงแม้ว่าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เว้นแต่จะเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน แต่ในปัจจุบันสภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้ซี่งมีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจเหนือกว่าถือโอกาสอาศัยหลักดังกล่าวเอาเปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งอำนาจต่อรองทางเศรฐกิจด้อยกว่าอย่างมาก ซี่งทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมและไม่สงบสุขในสังคม สมควรที่รัฐจะกำหนดกรอบของการใช้หลักความศักดิ์สิทธิของการแสดงเจตนาและเสรีภาพของบุคคล เพื่อแก้ไขความไม่เป็นธรรมและความไม่สงบสุขในสังคมดังกล่าว โดยกำหนดแนวทางให้แก่ศาล เพื่อใช้ในการพิจารณาว่าข้อสัญญาหรือข้อตกลงใดที่ไม่เป็นธรรม และให้อำนาจแก่ศาลที่จะสั่งให้ข้อสัญญาหรือข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรมนั้นมีผลใช้บังคับเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณี จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น ศุภสรณ์ / อภิสิทธิ์ ผู้จัดทำ ๒๑/๐๓/๒๕๔๖ ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๒ “ดอกเบี้ย” หมายความว่า (กฎ) น. ค่าตอบแทนที่บุคคลหนึ่งต้องใช้ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เพื่อการที่ได้ใช้เงินของบุคคลนั้น หรือเพื่อทดแทนการไม่ชำระหนี้หรือชำระหนี้ไม่ถูกต้อง ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน เป็นค่าตอบแทนที่จำเลยต้องใช้ให้แก่โจทก์ เพื่อการที่ได้ใช้เงินของโจทก์ จึงเป็นดอกเบี้ยตามพจนานุกรม ที่โจทก์กำหนดเรียกชื่ออย่างอื่น ข้อ ๒. ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔ ข้อตกลงในสัญญาระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจการค้า หรือในสัญญาสำเร็จรูป ที่ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจการค้าหรือผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป ได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควร เป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น ในกรณีที่มีข้อสงสัยให้ตีความสัญญาสำเร็จรูปไปในทางที่เป็นคุณแก่ฝ่ายซึ่งมิได้เป็นผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูปนั้น ข้อตกลงที่มีลักษณะ หรือมีผลให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ปฏิบัติหรือรับภาระเกินกว่าที่วิญญูชนจะพึงคาดหมายได้ตามปกติ เป็นข้อตกลงที่อาจถือได้ว่า ทำให้ได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง เช่น (๒) ข้อตกลงให้ต้องรับผิดหรือรับภาระมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๔ ท่านห้ามมิให้คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละ ๑๕ ต่อปี ถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่านั้น ก็ให้ลดลงมาเป็นร้อยละ ๑๕ ต่อปี ตามคำฟ้องข้อ ๒. โจทก์พิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้จำเลย เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๔ จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี คิดค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินอัตราร้อยละ ๑๓ ต่อปี รวมกันเป็นอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี ซึ่งเป็นดอกเบี้ยตามพจนานุกรมทั้งสิ้น จึงเป็นข้อตกลงให้จำเลยต้องรับผิดหรือรับภาระมากกว่าที่กฎหมายกำหนด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๔ เป็นข้อตกลงที่ถือได้ว่า ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจการค้าและผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป ได้เปรียบจำเลยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควร จึงเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔ ข้อ ๓. ทำให้โจทก์ได้เปรียบคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควร จึงจำเป็นต้องคำนวณดังนี้ ตารางที่ ๑ โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ย ๑๕% ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ๑๓% จำนวนชำระขั้นต่ำเดือนละ ๑,๒๐๐ บาท สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๓ ปรากฏว่า จำเลยผ่อนชำระเดือนละ ๑,๒๐๐ บาท รวม ๑๕๕ เดือน และเดือนที่ ๑๕๖ เดือนสุดท้าย ชำระ ๓๓๐.๓๑ บาท รวมจำนวนเงินที่จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๑๘๖,๔๔๐.๓๑ บาท (๓๗๒.๘๘% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๗๓,๐๙๓.๐๓ บาท (๑๔๖.๑๙% ของเงินต้น) นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๑๓ ต่อปี เป็นเงิน ๖๓,๓๔๗.๒๙ บาท (๑๒๖.๖๙% ของเงินต้น) นำไปชำระเงินต้นจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท (๑๐๐% ของเงินต้น) รวมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินทั้งสิ้น ๑๓๖,๔๔๐.๓๑ บาท (๒๗๒.๘๘% ของเงินต้น) ตารางที่ ๒ โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ย ๑๕% ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ๐% จำนวนชำระขั้นต่ำเดือนละ ๑,๒๐๐ บาท สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๔ ปรากฏว่า จำเลยผ่อนชำระเดือนละ ๑,๒๐๐ บาท รวม ๕๙ เดือน และเดือนที่ ๖๐ เดือนสุดท้าย ชำระ ๒๖๙.๖๖ บาท รวมจำนวนเงินที่จำเลยผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์ทั้งสิ้น ๗๑,๐๖๙.๖๖ บาท (๑๔๒.๑๔% ของเงินต้น) นำไปชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงิน ๒๑,๐๖๙.๖๖ บาท (๔๒.๑๔% ของเงินต้น) นำไปชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินร้อยละ ๐ ต่อปี เป็นเงิน ๐.๐๐ บาท (๐% ของเงินต้น) นำไปชำระเงินต้นจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท (๑๐๐% ของเงินต้น) เปรียบเทียบ ดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นเงินทั้งสิ้น ๒๑,๐๖๙.๖๖ บาท (๑๐๐%) ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินรวมกันร้อยละ ๒๘ ต่อปี เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๓๖,๔๔๐.๓๑ บาท คิดเป็นอัตราร้อยละ ๖๔๗.๕๗% ของดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี จึงเป็นข้อตกลงที่ถือได้ว่า ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจการค้าและผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป ได้เปรียบจำเลยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควรเป็นอันมากถึงอัตราร้อยละ ๖๔๗.๕๗% ของดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี จึงเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณีเท่านั้น ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔ ข้อ ๔. ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาไม่เป็นธรรม มาตรา ๑๐ ในการวินิจฉัยว่าข้อสัญญาจะมีผลบังคับเพียงใดจึงจะเป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณี ให้พิเคราะห์ถึงพฤติการณ์ทั้งปวง รวมทั้ง (๑) ความสุจริต อำนาจต่อรอง ฐานะทางเศรษฐกิจ ความรู้ความเข้าใข ความสันทัดจัดเจน ความคาดหมาย แนวทางที่เคยปฏิบัติ ทางเลือกอย่างอื่น และทางได้เสียทุกอย่างของคู่สัญญาตามสภาพที่เป็นจริง (๒) ปกติประเพณีของสัญญาชนิดนั้น (๓) เวลาและสถานที่ในการทำสัญญาหรือในการปฏิบัติตามสัญญา (๔) การรับภาระที่หนักกว่ามากของคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง จำเลยขอกราบเรียนว่า เมื่อได้พิจารณาถึงความสุจริต อำนาจต่อรอง ฐานะทางเศรษฐกิจ ความรู้ความเข้าใจ ความสันทัดจัดเจน ความคาดหมาย แนวทางที่เคยปฏิบัติ ทางเลือกอย่างอื่นระหว่างโจทก์และจำเลยแล้ว จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นอำนาจในการต่อรอง ฐานะทางเศรษฐกิจ โจทก์มีเหนือกว่าจำเลยทุกประการ มีความรู้ทางการเงินชั้นยอด มีความสันทัดจัดเจนในการทำสัญญา ด้วยมีบุคลากรทรงคุณวุฒิมีความเชี่ยวชาญในทางกฎหมายเพื่อร่างข้อตกลงดังกล่าว หรือทางเลือกของจำเลยในการทำสัญญาประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทใดก็มีข้อตกลงในการคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินแบบเดียวกัน จำเลยจึงมีทางเลือกน้อยกว่า ทางได้เสียของคู่สัญญา โจทก์เป็นผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินได้เองฝ่ายเดียว แม้จะอยู่ภายใต้ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย แต่เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจให้สินเชื่อของโจทก์แล้ว ทางได้เสียของโจทก์ดีกว่าคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินดังกล่าว จำเลยในฐานะผู้บริโภคต้องรับภาระที่หนักกว่าโจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจการค้าเป็นอย่างมาก ทำให้โจทก์ได้เปรียบจำเลยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเกินสมควร (๔) การรับภาระที่หนักกว่ามากของคู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ภาระของโจทก์ในการทำธุรกิจ พิจารณาจากดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งเป็นต้นทุนการให้สินเชื่อ ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับบุคคลธรรมดาของธนาคารพาณิชย์ ประจำวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๐ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๙ ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศไทย ๕ อันดับแรก กรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา กำหนดให้ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ๑๒ เดือน แก่ผู้ฝากเงิน อัตราร้อยละ ๑.๕๐, ๑.๓๐, ๑.๓๐, ๑.๔๐, ๑.๓๕ ต่อปี สูงสุดร้อยละ ๑.๕๐ ต่อปี โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงินจำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุดร้อยละ ๑.๕๐ ต่อปี ต้นทุนเงินให้กู้ยืมเงิน คิดเป็นเงินจำนวน ๗๕๐ บาท (๕๐,๐๐๐ คูณ ๑.๕๐ หาร ๑๐๐ เท่ากับ ๗๕๐) จึงเป็นต้นทุนเงินให้กู้ยืมที่น้อยมาก จึงเห็นได้ว่า จำเลยต้องรับภาระที่หนักกว่าโจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจการค้า และเป็นผู้กำหนดสัญญาสำเร็จรูป เป็นอย่างมาก จึงเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และให้มีผลบังคับได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและตามสมควรแก่กรณีเท่านั้น ตามพระราชบนัญญัติ ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๔ ข้อ ๕. ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (เรื่อง สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๕ ข้อ ๗ ข้อ ๘ และข้อ ๑๔ แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ลงวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๑๕ ว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน สำเนาเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๙ กู้เงิน จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินรวมกันร้อยละ ๒๘ ต่อปี ๑๓๖,๔๔๐.๓๑ บาท คิดเป็นอัตราร้อยละ ๖๔๗.๕๗% ของดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี จึงเป็นการประกอบกิจการค้าขายที่ก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยและไม่ผาสุกแก่สาธารณชนลูกค้าโจทก์เป็นอันมาก จึงไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ว่าด้วยการควบคุมกิจการค้าขายอันกระทบถึงความปลอดภัยหรือผาสุกแห่งสาธารณชน โจทก์จึงไม่อาจอ้างประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ได้ ข้อ ๖. ตามข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ สำเนาเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑๐ ยอดสินเชื่อคงค้าง ๓๓๘,๑๑๗ ล้านบาท ถ้าคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี เป็นเงินค่าดอกเบี้ยปีละ ๙๔,๖๗๒.๗๖ ล้านบาท ถ้าระยะเวลาผ่านไป ๕ ปี ดอกเบี้ยสะสมจะเป็นเงินมากถึง ๔๗๓,๓๖๓.๘๐ ล้านบาท คิดเป็น ๑๔๐% ของเงินต้นคงค้าง ๓๓๘,๑๑๗ ล้านบาท ถึงวันนั้น ทุกอย่างคงจบ เพราะประชาชนผู้บริโภคไม่มีกำลังซื้อ ประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ทุนต่างชาติเอาเงินของประชาชนผู้บริโภคไปค่อนข้างมาก จนประชาชนผู้บริโภคขาดกำลังซื้อ การคิดดอกเบี้ยร้อยละ ๒๘ ปี ประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๘ ถึงวันนี้ เป็นเวลาเกือบ ๑๒ ปี คิดเป็นดอกเบี้ยที่ประชาชนผู้บริโภคต้องจ่ายมากถึง ๓๓๖% (๒๘ คูณ ๑๒ เท่ากับ ๓๓๖%) เศรษฐกิจของประเทศไทยถึงได้ฝืดเคืองมาก จำเลยจึงกราบขอประทานศาลท่านได้โปรดเมตตาตามแต่จะโปรดเห็นสมควร

chaaiimz เขียน: สวัสดีคะ เข้ามาตามอ่าน ติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ โดยส่วนตัวของเอมแล้ว เอมเพิ่งจะหนุดจ่ายไป 2 บัตรด้วยกัน คือ
1. ยูเมะพลัส ยอด 88,000 บาท หยุดจ่ายไปเมื่อ 2/3/60
2. เคทีซี พราว ยอด 40,000 บาท หยุดจ่ายไปเมื่อ 2/3/60

หยุดไป 2 ใบ แต่ยูเมะโทรมาทุกวันเลยคะ รับบ้าง ไม่รับบ้าง พอไม่รับปุ๊ปก็โทรเข้าเครื่องคุณแม่ทันที ก็รู้สึกเครียดๆ นะคะ กลัวด้วย แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเงินแบบสุดๆ จริงๆ บวกกับที่มาอ่านในเว็บ ก็เลยรู้สึกว่า หยุดจ่ายขั้นต่ำซะทีเถอะเอม ก็เลยตัดสินใจหยุด แต่ทางยูเมะก็โทรมาทุกวัน ทุกชั่วโมงจริงๆ ล่าสุดก็ให้จ่ายแบบ 100/300/500 มีเท่าไรจ่ายมาก่อนนะคะ แต่เอมก็บอกว่าไม่มีเลยคะ
ส่วนทางบัตร เคทีซี พราว พนง.พูดจาดีมากๆ เลยคะ โทรมาอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จะรับสายตั้งแต่วันจันทร์ ก็บอกเขาว่ายังไม่มีเลยคะ เขาก็ถามว่ามีเมื่อไร ก็ตอบว่าไม่รู้เลยคะ และวันศุกร์เขาก้อโทรมาใหม่ เป็นแบบนี้มาตลอดเลยคะ แต่ล่าสุด พนง. บอกว่า ถ้าไม่ชำระ บัญชีร่วมของคุณก็จะใช้งานไม่ได้เช่นกันนะคะ ก็เลยสงสัย ว่า บัตรเครดิต เคทีซี วีซ่า ที่ยังส่งจ่ายอยู่และยอดที่ 8,000 บาท จะใช้ไม่ได้ด้วยหรอคะ แอบกลัว เพราะยังใช้บัตรนี้อยู่ เอาไว้รูดซื้อของใช้ในบ้าน แต่ก้อส่งขั้นต่ำบ้าง ส่งเกินบ้าง แต่ก็แอบกลัวคะ

ยังไงขอติดตามข้อมูลของทางคุณ zaxsoda7 ต่อไปนะคะ....

ถ้าเป็นเจ้าหนี้เดียวกัน จะเป็เงินสดเครดิตเค้าทำการยดเลิกครับผมโดนมาแล้ว ถ้าจะให้ดีหยุดใช้บัตรหันมาใช้เงินสดแทนครับ

Taeyong เขียน:

chaaiimz เขียน: สวัสดีคะ เข้ามาตามอ่าน ติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ โดยส่วนตัวของเอมแล้ว เอมเพิ่งจะหนุดจ่ายไป 2 บัตรด้วยกัน คือ
1. ยูเมะพลัส ยอด 88,000 บาท หยุดจ่ายไปเมื่อ 2/3/60
2. เคทีซี พราว ยอด 40,000 บาท หยุดจ่ายไปเมื่อ 2/3/60

หยุดไป 2 ใบ แต่ยูเมะโทรมาทุกวันเลยคะ รับบ้าง ไม่รับบ้าง พอไม่รับปุ๊ปก็โทรเข้าเครื่องคุณแม่ทันที ก็รู้สึกเครียดๆ นะคะ กลัวด้วย แต่ตอนนี้มีปัญหาทางการเงินแบบสุดๆ จริงๆ บวกกับที่มาอ่านในเว็บ ก็เลยรู้สึกว่า หยุดจ่ายขั้นต่ำซะทีเถอะเอม ก็เลยตัดสินใจหยุด แต่ทางยูเมะก็โทรมาทุกวัน ทุกชั่วโมงจริงๆ ล่าสุดก็ให้จ่ายแบบ 100/300/500 มีเท่าไรจ่ายมาก่อนนะคะ แต่เอมก็บอกว่าไม่มีเลยคะ
ส่วนทางบัตร เคทีซี พราว พนง.พูดจาดีมากๆ เลยคะ โทรมาอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จะรับสายตั้งแต่วันจันทร์ ก็บอกเขาว่ายังไม่มีเลยคะ เขาก็ถามว่ามีเมื่อไร ก็ตอบว่าไม่รู้เลยคะ และวันศุกร์เขาก้อโทรมาใหม่ เป็นแบบนี้มาตลอดเลยคะ แต่ล่าสุด พนง. บอกว่า ถ้าไม่ชำระ บัญชีร่วมของคุณก็จะใช้งานไม่ได้เช่นกันนะคะ ก็เลยสงสัย ว่า บัตรเครดิต เคทีซี วีซ่า ที่ยังส่งจ่ายอยู่และยอดที่ 8,000 บาท จะใช้ไม่ได้ด้วยหรอคะ แอบกลัว เพราะยังใช้บัตรนี้อยู่ เอาไว้รูดซื้อของใช้ในบ้าน แต่ก้อส่งขั้นต่ำบ้าง ส่งเกินบ้าง แต่ก็แอบกลัวคะ

ยังไงขอติดตามข้อมูลของทางคุณ zaxsoda7 ต่อไปนะคะ....

ถ้าเป็นเจ้าหนี้เดียวกัน จะเป็เงินสดเครดิตเค้าทำการยดเลิกครับผมโดนมาแล้ว ถ้าจะให้ดีหยุดใช้บัตรหันมาใช้เงินสดแทนครับ

เข้าใจแล้วคะ .. ตอนนี้ก็ไม่ใช้บัตรอะไรเลย บัตรเครดิตก็ไม่ได้ใช้คะ แต่บัตรเครดิต เอมก็ยังจ่ายขั้นต่ำ หรือ มีเยอะก็จ่ายไปเยอะหน่อยคะ ยอดในบัตรที่ใช้ไปประมาณ 8-9 พันบาท แต่ตอนนี้เริ่มมาคิดว่าจะหยุดจ่ายบัตรอื่นๆ ที่เหลืออีกดีรึเปล่า เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงสิงหาคม 59 จนถึงตอนนี้ก็จ่ายขั้นต่ำของทุกบัตรมาตลอด ตอนนี้ประสบปัญหาทางการเงิน กำลังลังเลว่าจะหยุดจ่ายดีไหม เพราะตอนนี้ก็ไม่ได้ทำงานประจำมาตั้งแต่สิงหาคม 59 แล้วคะ แต่ก็แอบกลัวๆ เรื่องโดนยึดทรัพย์ เพราะบ้านหลังที่อยู่ชื่อ เอมเป็นเจ้าบ้านคะ และบ้านเป็นชื่อพ่อทีาเสียไปแต่ยังติดอยู่กับแบงค์ เอมยังคงส่งต่ออยู่ แต่ได้หมายศาลเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว ก็กลัวจะโดนยึด/อายัดทรัพย์ เครียดมากๆ คะช่วงนี้

สวัสดีครับ ยามบ่ายแดดร้อน ๆ หลังสงกรานต์ วันนี้จะเข้ามาอัพเดทสักหน่อย

หลังจากที่ผ่านมาเป็นระยะเวลา 3 เดือน

ยูเมะ+ ล่าสุดก่อนสงกรานต์ โทรมาให้ผมประนอมหนี้ แต่ผมปฏิเสะไปนะครับ เพราะยังไงปรับโครงสร้างหรือ
ประนอม ผมก็ไม่มีและก็ไม่พร้อมจ่าย หลัง ๆ โทรมาไม่ค่อยได้รับ แต่ช่วงนี้ก็จะพยายามรับสายกันสัก
หน่อย แต่ล่าสุดที่รับสาย พูดจาก็มาดี ๆ อยู่หรอกนะครับ แต่มาจบท้ายประโยชน์หยุดด้วยคำว่า
"เพื่อ" สั้น ๆ ห้วน ๆ มัมน่าตบกะโหลกคว่ำจริง ๆ เอาคำพูดที่ใช้สนทนากันระหว่างเพื่อน มาพูดกับเรา
แบบนี้ได้หรอ ดีนะ ผมเป็นคนไม่ค่อยอะไรมาก รอดูกันต่อไป แต่ยังไม่โทรมาเลยช่วงนี้ สงสัยคงรอ
ช่วงวันเงินเดือนออกแน่ ๆ

JMT ลาสุดมอบอำนาจบริาัทในเครือ ออกหนังสือ อนุมัติให้ดำเนินคดีกับท่านแล้ว ก็มีข้อความต่าง ๆ ตามหนังสือ หลังจากศสาลพิพากษา ยึดทรัพย์สิน อายัดเงินเดือน และบัญชีเงินฝากในธนาคาร เรียนผู้ติดตามว่า ไม่ต้องตกใจครับ กว่าจะถึงกระบวนการนั้นจริง ๆ ต้องเข้าสู่ขั้นตอนของกรมบังคับดคี ถึงจะยึดทรัยพ์สินได้ อายัดเงินเดือนก็ได้แค่ 30% เท่านั้น หจากที่ศึกษามาแล้วก็พร้อมรับมือครับ ดูดิว่า ครบ 7 วันตามหนังสือแล้วจะเป็นยังไง จะมาอัพเดทต่อให้นะครับ

TMB ก็บอกว่ายังไม่พร้อมและไม่มีจ่าย ก็รอสรุป ยกเลิกสัญญาหนี้ เข้าสู่กระบวนการ ให้ทางบริษัท ทวง
หนี้ ติดต่อตามตื้อต่อไป

First Choice กับ กรุงศรีสมายแคลช ก็บอกไปเหมือนกันว่ายังไม่มีครับ และยังไม่พร้อม

คงต้องติดตามกันต่อไปครับ ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ผมพร้อมจะรับทุกสาย ยอมรับว่า แรก ๆ ให้รับทุกสาย เสียสุขภาพจิตพอสมควร แต่ตอนนี้ตั้งตัวรับมือ สบาย ๆ ล่ะครับ

ของ umay ลดเยอะคะสู้คะ เราหยุดตั้งแต่ 2/2/69

Pptoon เขียน: ของ umay ลดเยอะคะสู้คะ เราหยุดตั้งแต่ 2/2/69

ได้ลดเยอะจังค่ะ เขาเสอนมาแค่รอบเดียว หรือ เสนอมาหลายรอบแล้วหรอค่ะ ... ล่าสุดของเอม บัตร U-may+ โทรมาเมื่อวันที่ 21/4/60 เขาเสนอส่วนลดให้จาก 93,xxx ลดให้เหลือ 65,000฿ ให้แบ่งจ่ายเป็น 6-8 งวด แต่ทางเอมขอยังไม่รับ เพราะยังมองว่ายอดเยอะเกินไปอยู่ แต่พนักงานก็พูดมาว่า "ถ้าทางคุณไม่รับข้อเสนอนี้อีก ทางเราไม่มีข้อเสนอไหนจะช่วยคุณแล้วนะคะ ส่วนลดที่ดีแบบนี้ไม่มีเข้ามาง่ายๆ นะคะ ถ้าตุณไม่รับข้อเสนอว่าวันนี้ ต่อจากนี้จะไม่มีข้อเสนอใดใด อีกต่อไปแล้วนะคะ..." เอมก็ตอบไปแค่ "คะ.." เพราะมันยังสูงอยู่จริงๆ ก็หวังว่าเขาจะให้ส่วนลด ลดลงมาอีกนะคะ

เป็นกำลังใจให้คุณ zaxsoda7 ด้วยนะคะ สู้ๆ สู้ไปด้วยกัน เป็นกำลังใจให้นะคะ

สวัสดีคะเจ้าของกระทู้ ดิฉันพึ่งเป็นสมาชิกไหม่ ได้อ่านเรื่องราวของคุณ เป็นกำลังใจให้นะคะ และขอติดตามเรื่องราวของคุณ
เพื่ิอที่จะเอามาเป็นแนวทางบ้าง ตอนนี้ยังเป็นลูกหนี้ชั้นดีอยู่คะ
แต่ไม่ไหวแล้วเดือนหน้าก็จะหยุดจ่ายเพราะหมุนเงินไม่ทัน เลยอยากได้แนวทางในการรีบมือคะ

สวัสดีครับ หลังจากที่หายไปนานอีกพัก ก็มีเรื่อง มาเล่าให้ผู้ที่สนใจติดตามเรื่องของผม
อัพเดทกันหน่อย

1. อันนี้เลยใหม่ ๆ สด ๆ มาแรงมาก jmt ไม่คิดว่าจะฟ้องเร็วขนาดนี้(ฟ้อง แต่ยังส่งข้อความ sms มาแจ้งเตือนให้ชำระงวดสัญญา เท่านี้ ขออภัยหากชำแระแล้ว (ให้เราชำระ แล้วไปฟ้องศาลทำไม ตลก!)พึ่งโดนหมายศาลส่งมาทางบ้าน นัดขึ้นศาล 30 มิ.ย. 60 เวลา 9 โมงเช้า สำหรับผมก็ต้องเจรจาตกลงจนเลื่อนการพิจารณาไปแน่นอน มาเร็วเสียจริง พึ่งจะ 5 เดือน ไวจริง ๆ ยังเก็บเงินไม่ถึงเลยวุ้ย ก็รอดูต่อไปครับว่าผมจะไปเจรจาที่ศาลยังไง จะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ

2. ต่อไป พึ่งโทรมาวันศุกร์ 26 Frist เลย ให้เราสนใจปรับปรุงโครงสร้าง จ่ายแค่เดือนละ 1600 (โอ้โห 60 งวด บ้าไปแล้ว เป็นเงินเท่าไหร่ นี่เป็นหนี้เงินต้น ณ ตอนนี้ 7 หมื่น ปาเข้าไปดอก 26000 ) หรือถ้าจะปิดบัญชีเราก็มีส่วนลด (ไอ้ตรงนี้ เอาอะไรคิด 1600 ยังไม่มีจะให้ แล้วจะเอาเงินหมื่นมากจากไหน) มีการไปสืบข้อมูลเราด้วยว่าเราทำยังทำงานอยู่ ยังมีรายได้เข้า แสดงพาวเวอร์สุด ๆ แถมยังบอกอีกว่า ตำแหน่งงานผม HR คุณก็น่าจะรู้ดีนะว่ากระบวนการขั้นตอนเป็นอย่างไร (แนะ! มีสั่งสอนเราซะด้วย ติดที่ผมมากับรถผู้บริหาร ไม่งั้นจะสวนกลับไปแล้ว หน้าที่คุณมีแค่ ติดตาม ทวงถาม นำเสนอ ไม่ใช่มาสั่งสอนผม) ถ้าใครเล่น ROV รู้เลย หัวร้อน เป็นยังไง ฮ่า ๆ

3. Um+ / Krusri / tmb ยังเงียบ ๆ อยู่นะครับ โทรมาหาบ้างก็ได้จะได้รู้ว่าอยู่ขั้นตอนไหนแล้ว เงียบไปนานแล้วอ่ะ คิดถึง จะได้เตรียมตัวถูก

ครับ ถ้าจะหยุดจ่ายแล้วก็ต้องเตรียมอ่านข้อมูล และประสบการณ์ของหลาย ๆ คน รวมทั้งกระทู้สำคัญที่ต้องอ่่านทั้งหมด และที่สำคัญต้องเข้มแข็ง ใจสู้นะครับ ไว้ต่อกรเวลาโดนทวงหนี้ อย่าวิตกกังวลมากไปครับ

สู้ๆ ต่อไปด้วยกันคะ ขอติดตามอีกคนนะคะ เว็บนี้คือพลังทำให้มีแรงสู้ๆจริงๆ คะ

ปูเสื่อรอติดตามเป็นแรงใจให้ครับ
ผมกำลังตัดใจเดือนนี้เริ่มต้นปฏิบัติการเช่นกัน

สวัสดีครับทุกท่านและทุกคนที่ติดตาม เป็นแนวทางครับ วันนี้ผมขอมาอัพเดท นิดหน่อย หลังจากที่ผมหยุดจ่ายมาจนเข้าเดือนที่ 8 ก็มีเรื่องดี ๆ เข้ามาเลยล่ะครับ

1. หลังจากที่ไปขึ้นศาลมาแล้ว สำหรับ JMT ก็ยืดเวลาไปอีกเดือน เพราะเราไม่มีจริง ๆ นะตอนนั้น แต่เรื่องดี ๆ ก็มีเข้ามาเนาะครับ ตอนที่เจรจาไกล่เกลี่ย ครั้งแรก 4000 บาท 24 งวด ไม่รู้อะไรดลใจนะครับ ก่อนจะถึงวันนัดหมายศาลอีกรอบ ผมได้คุยกับเจ้าหน้าที่ ดี ๆ (เทคนิคของคุณล่ะครับ) ผมได้ข้อตกลงจ่าย 2500 แค่ 12 งวด เท่านั้น คุ้มนะครับ จากยอดหนี้ 100000 นิด ๆ ยอมเพราะต้องเก็บเงินไว้รอเจ้าอื่น ทั้งที่ผมจ่ายคืนเจ้าหนี้นี้มาแค่ 6 งวดจากทั้งหมด 60 งวด

2. Umay จาดยอด 140000 กว่า ๆ ยอมจ่ายปิดจบที่ 52000 ครับ แต่ 2 งวด กรกฏาคมครับ 25000 กับ 27000 เดือนกันยายน ถือว่าจบแล้วครับ

3. เฟิร์ส นี่จากยอดปัจจุบัน 67000 กว่า ๆ ยอมจ่ายปิดจบที่ 35000 บาท ครับ

เท่ากับว่าตอนนี้ ผมเหลือที่จะเคลียร์อีก 2 เจ้า คาดการณไว้ว่าปีหน้า จบหมดแล้วครับ ตั้งเป้าหมายแล้วต้องทำให้ได้ไปให้ถึงครับ นี่แค่ผลลัพธ์ เพียง 7 เดือน เท่านั้น ลองคุยกับเจ้าหน้าที่ดี ๆ รับสายบ้างไม่รับบ้าง เชื่อว่าทุกคนที่ศึกษาผมไปแนวทาง จะได้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากผมนะครับ ที่สำคัญหยุดจ่ายแล้วต้องเก็บออมด้วยครับ หยุด กิน เที่ยวเล่นที่ไร้สาระไปสักพัก ผมออมไว้เดือนละ 12000 ถึงได้มีเงินจัดการพวกนี้โดยเฉพาะ เชื่อผมแล้วเราจะมีอิสระในอนาคตอันใกล้ครับ

สู้ไปด้วยกัน แล้วผมจะมาอัพเดทให้นะครับ