สำเร็จแล้วกับการต่อสู้กับหนี้เกือบ 1 ล้านบาท

สวัสดีเพื่อนๆ คนยิ้มสู้หนี้ทุกคนนะคะ

เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การปลดหนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆนะคะ เราเป็นคนนึงที่เคยมีประสบการณ์มีหนี้เกือบ 1 ล้านบาท ตามรายละเอียดที่แจงไว้ด้านล่าง (ขออนุญาติแจ้งเป็นเลขกลมๆ กับ ระยะเวลาปิดคร่าวๆ) เราเริ่มเป็นหนี้จากการกู้เงินมาเพื่อลงทุนทำร้านอาหารกับเพื่อน แล้วคิดว่ามันจะงอกเงย แต่ที่ไหนได้ กลับกลายเป็นเจ๋งไม่เป็นท่า ตอนนั้นยังไม่รู้จักชมรมนี้ ก็แก้ปัญหาโดยวิธีกู้อีกแบงค์มาโปะอีกแบงค์ แต่ก็ไม่ได้มีเงินได้เพืิ่มเติมอะไร นอกจากงานประจำ ทำให้วันนึงก็ไม่สามารถจ่าย
หนี้ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่มีแม้แต่เงินจะจ่ายขั้นต่ำเพราะหนี้เต็มไปหมด

เราก็เริ่มเครียดไม่รู้จะทำไงดี เครียด นอนไม่หลับ จะไปเอ่ยปากหยิบยืมใครเงินก็เยอะมาก ถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย เล่าให้พ่อแม่ฟัง ก็พากันร้องไห้ กลัวลูกติดคุก เพราะไม่มีความรู้ด้านกฏหมายใดๆทั้งสิ้น

วันนึงก็เริ่มคิดมาได้ว่าถ้าเค้าฟ้องร้องขึ้นมาเราจะทำไงดี ก็เริ่ม search หาข้อมูล ก็เลยได้มาพบกับชมรมคนยิ้มสู้หนี้ ใช้เวลานั่งอ่าน นั่งศึกษากระทู้ปักหมุดทุกกระทู้ อ่านทำความเข้าใจทุกบรรทัด จนมีความมั่นใจว่าปัญหาหนี้ของเรามีทางออกแน่นอน เราต้องเลือกวิธีแก้ปัญหาที่เข้ากับตัวเองมากที่สุด นั่นคือการ Haircut พอเลือกวิธีนี้เราจึงตัดสินใจหยุดจ่ายทุกบัญชีตั้งแต่ปลายปี 2558 เริ่มจดข้อมูลยอดหนี้ที่หยุด
ทำบัญชีรายจ่าย ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือยทั้งหมด (ทำตามที่อาจารย์ทุกท่านแนะนำทุกอย่าง)

ปี 2559 เป็นปีแห่งความอดทน อดกลั้น ต้องรับโทรศัพท์ทุกธนาคาร คุยด้วยกับทุกสาย มีทั้งที่พูดคุยดี และพูดคุยเหมือนเราไปยืมเงินพนักงานคนนั้นมาแล้วไม่คืน แต่ไม่มีการใช้คำหยาบคายใดๆทั้งสิ้น ถ้าเพื่อนๆผ่านระยะนี้ไปได้ก็จะสบายขึ้น ประมาณ 4-5 เดือนที่หยุด ธนาคารเริ่มให้บริษัทรับทวงหนี้ต่างๆ เริ่มเป็นคนโทรมาหา พูดจาไพเราะ อยากจะช่วยเหลือเราจริงๆ เริ่มพูดคุยถึงการจ่ายเพื่อยื้อบัญชี หรือการปรับโครงสร้างหนี้ ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด เมื่อเลือกที่จะทำ Hair Cut ก็ต้องไปให้สุด พอเข้าเดือนที่ 7 บรษัททวงนี้ก็เริ่มนำเสนอให้เราลองหาเงินก้อนเพื่อจ่ายปิดยอด เราก็ต่อรองให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ ระหว่างที่ต่อรองกันอยู่ก็เก็บเงินก้อนให้ได้มากที่สุด ลำดับการต่อรองก็ตามด้านล่าง มีของ Citi Credit card ที่เดียวที่ต่อยังไงก็ลดให้น้อยมาก แต่อ่านกระทู้อื่นเค้าบอกว่าให้เยอะมาก ไอ้เราก็ไม่ยอม ยื้อกันจนถึงหมายศาลมาถึงบ้าน สุดท้ายก็จ่ายปิดบัญชีไป เพราะอยากจะจบชีวิตการเป็นหนี้แล้วเริ่มต้นใหม่

1. Citi สินเชื่อ 300,xxx บาท ปิดยอดที่ 170,000 บาท เดือน ธันวาคม 2559
2. KBank Credit Card 70,xxx บาท ปิดยอดที่ 30,000 บาท เดือน เมษายน 2560
3. SCB Speedy Loan 280,xxx บาท ปิดยอดที่ 150,00 บาท เดือน ธันวามคม 2560
4. Citi Credit Card 300,xxx บาท ปิดยอดที่ 250,000 บาท เดือน มกราคม 2561

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเป็นหนี้ครั้งนี้คือ
1. วางแผนให้ดีก่อนการทำธุรกิจใดๆ
2. ศึกษาข้อมูลเยอะๆ ในบอร์ดนี้มีความรู้ดีๆเยอะมาก เราไม่เคยตั้งกระทู้ถาม
แต่เราตั้งใจอ่านและทำความเข้าใจอย่างจริงจัง แล้วลองไป apply กับตัวเอง
3. วินัยการใช้จ่าย การจดบัญชีรายรับ รายจ่าย ช่วยให้เราสามารถปลดหนี้ในวันนี้ได้
(เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าลองทำดูจะพบว่าคุณสามารถมีเงินเก็บได้เยอะมาก)

จบแล้ว 2 ปีกับอีก 1 เดือนของการเป็นหนี้

ขอขอบคุณอาจารย์ที่เขียนกระทู้ให้ความรู้กฏหมาย ความรู้การปลดหนี้ การรับมือกับการทวงหนี้ต่างๆ
ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ช่วยแชร์ความรู้ดีๆ ที่ต่อสู้กันมา
หวังว่าเพื่อนๆที่กำลังต่อสู้อยู่จะมีกำลังใจต่อไป

ยินดีด้วยคะกับความสำเร็จที่ได้รับ ขอบคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์คะ ทำให้มั่นใว่าเราเดินมาถูกทางแล้วจริงจริง จะเดินตามรอยไปคะ